กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
ลูกค้าชั้นนำของปี 2001 อาทิ Compaq, Bank of Montreal และ IKON Office Solutions ต่างยืนยันความสามารถในการลดต้นทุนการทำธุรกิจ ด้วยคุณสมบัติพิเศษของแอพพลิเคชัน ทั้งในส่วนของมาตรฐานเปิด ความยืดหยุ่นสูง และโครงสร้างการทำงานแบบข้อมูลชุดเดียว
เรดวู้ด ชอร์, แคลิฟอร์เนีย -- 30 พฤศจิกายน 2544 - ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: ORCL) บริษัทซอฟต์แวร์ทางด้านเอนเตอร์ไพรซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศวันนี้ว่า ความสามารถในการตัดลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของ Oracle า E-Business Suite ด้วยการลดความยุ่งยากในการนำข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในองค์กร ได้ทำให้ E-Business Suite สามารถครองใจลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่องอีกครั้งในปี 2001 ปัจจุบันมีลูกค้าที่ทำงานบน E-Business Suite มากกว่า 900 ราย โดยอีก 4,000 รายกำลังอยู่ระหว่างการติดตั้งระบบ ซึ่งส่วนหนึ่งของลูกค้าที่มาจากหลากหลายอุตสาหกรรมนี้ยืนอยู่แถวหน้าของเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็น AT&T Wireless, Bank of America, Bank of Montreal, Best Buy, British Telecom, Cathay Pacific Airways, Compaq, The Gap, IKON Office Solutions, Ingersoll-Rand, Level 3, McGraw Hill Education, NATO, POSCO, Qualcomm, Starbucks Coffee, Tantivy, Telia Networks, Toshiba Medical และ WestPac Banking Group.
เหตุผลหลักที่ลูกค้าเหล่านี้เลือกใช้ Oracle E-Business Suite ได้แก่ สถาปัตยกรรมแบบเปิดและโครงสร้างการทำงานแบบข้อมูลชุดเดียว (single data model) ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถใช้แอพพลิเคชันได้ทั้งในแบบแยกส่วนการใช้งานต่างหาก, ตามกระบวนการเลื่อนไหลทางธุรกิจ หรือในแบบที่ทุกฟังค์ชันการทำงานถูกรวบรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้การใช้แอพพลิเคชันทำงานเป็นหนึ่งเดียว นอกจากนี้ออราเคิลยังช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกลักษณะการใช้งานแอพพลิเคชันได้ ว่าจะใช้ในรูปแบบเดิมหรือจะใช้งานในลักษณะของการให้บริการออนไลน์
นับแต่ออราเคิลเริ่มแนะนำ E-Business Suite ให้กับลูกค้า บริษัทฯ ได้ออกส่วนขยายเพิ่มเติมอีก 5 ครั้งเพื่อช่วยให้การใช้งานในส่วนต่างๆ ของแอพพลิเคชันเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของ Oracle's Supply Chain Management (SCM) และ Customer Relationship Management (CRM) ส่งผลให้ออราเคิลเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น
"ภายในสิ้นปี 2001 คอมแพคคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนสำหรับระบบจัดซื้อทางอ้อมได้มากถึง 48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการใช้ Oracle E-Business Suite ช่วยให้กระบวนการจัดซื้อตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นตอนการจ่ายเงินเป็นไปโดยอัตโนมัติ, ตัดการใช้จ่ายนอกสัญญา, ลดจำนวนซัพพลายเออร์ลงและเพิ่มส่วนลดเมื่อสั่งซื้อในปริมาณมากขึ้น" พอล บอกซ์ ผู้อำนวนการฝ่ายจัดซื้อองค์กร ของคอมแพค กล่าว "เราเริ่มใช้แอพพลิเคชัน CRM ของออราเคิลเมื่อต้นปี 2001 นับตั้งแต่นั้นมาเราก็ผูกพันกับออราเคิลมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เราใช้แอพพลิเคชัน CRM สำหรับ iProcurement และ iStore สำหรับอี-คอมเมิร์ซ ด้วย โดยทั้งองค์กรมีคนของคอมแพคทำงานอยู่บนระบบนี้มากถึง 4,000 คน และมีซัพพลายเออร์ที่อยู่ใน iProcurement กว่า 5,000 ราย"
ปัจจุบันออราเคิลมีลูกค้าที่ใช้แอพพลิเคชันในทุกหมวดหมู่ของบริษัทฯ มากกว่า 10,000 ราย แสดงให้เห็นว่าองค์กรทั่วโลกต่างมั่นใจเลือกให้ Oracle E-Business Suite เป็นแพลตฟอร์มในการบริหารข้อมูลทางด้าน e-business ขององค์กร ด้วยประวัติการพัฒนาซอฟต์แวร์ตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปและพัฒนาในลักษณะเปิดมาโดยตลอดของออราเคิล ทำให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนแอพพลิเคชันให้สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานขององค์กรตัวเองได้ เช่นเดียวกับการทำให้แอพพลิเคชันใหม่ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์เก่าในองค์กรหรือซอฟต์แวร์จากผู้ผลิตรายอื่นได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ปี 2001 เป็นปีที่ E-Business Suite ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มลูกค้าไม่ว่าจากพื้นที่ใด ตลาดใด หรืออุตสาหกรรมใด
"ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ออราเคิลได้มุ่งเน้นในการนำเสนอแอพพลิเคชันที่ช่วยให้กระบวนการทางด้านธุรกิจในทุกระดับชั้นขององค์กรทำได้ง่ายขึ้น" เดนนิส ไบรอน รองประธานบริษัท อินเตอร์เนชันแนล ดาต้า คอร์ปอเรชัน กล่าว "ออราเคิลได้พัฒนาแพลตฟอร์ม E-Business ที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาจากนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่มีมาอย่างต่อเนื่องซึ่งเห็นได้จากการยอมรับของลูกค้า ช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองจากเดิมไปสู่อินเทอร์เน็ตได้ และยังช่วยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ใน 7 วัน"
ลูกค้ากับออราเคิล
"ธนาคารมอนทรีออลกำลังอยู่ระหว่างการทำรี-เอนจิเนียริ่งกระบวนการจัดซื้อ (CDN) สินค้าและบริการมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ด้วย Oracle E-Business Suite ในส่วนของการให้บริการออนไลน์ทำให้ธนาคารสามารถจะมุ่งความสนใจไปที่งานด้านการจัดซื้อที่ให้มูลค่าเพิ่มได้ แทนที่จะต้องไปกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้การที่เราไม่ต้องเสียเวลาไปปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ให้เข้ากับระบบของงานธนาคาร ทำให้เราได้เปรียบเรื่องการอัพเกรด คือสามารถอัพเกรดแบบปกติทั่วไปได้ ต้นทุนในการดูแลระบบจึงต่ำลงไปด้วย" คาเรน รูบิน รองประธานฝ่าย Strategic Sourcing ธนาคารมอนทรีออล กล่าว
"IKON ตัดสินใจติดตั้ง Oracle E-Business Suite ในช่วง 2-3 ปีนี้ เพราะเราตั้งใจที่จะทำระบบต่อเชื่อมระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพนักงานผ่านเว็บไซต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้บริษัทฯ ได้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานภายในด้วย" ไซมอน ไนท์ รองประธานฝ่าย Enterprise Systems ของ IKON Office Solutions กล่าว "ด้วยการนำเว็บและอินเทอร์เน็ตมาใช้กับธุรกิจ เราคาดว่า IKON จะเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีระบบงานที่ทำงานร่วมกันได้มากขึ้น และที่สำคัญเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นไปที่ลูกค้าอย่างแท้จริง"
จอร์จ โรเบิร์ต รองประธานกรรมการบริหาร ออราเคิล คอร์ปอเรชัน กล่าวถึงลูกค้าของออราเคิลว่า "นับแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ออราเคิลมีจำนวนลูกค้าที่ทำงานบน Oracle E-Business Suite เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว ปัจจุบันมีองค์กรมากกว่า 900 แห่งทั่วโลกใช้แอพพลิเคชันของออราเคิล แสดงให้เห็นว่าลูกค้าและความสำเร็จในการติดตั้ง Oracle E-Business Suite ของพวกเขาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของเรา ทั้งนี้เพราะความมุ่งมั่นในการปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดความซ้ำซ้อน ยุ่งยาก และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้ลูกค้าของเราสามารถฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงนี้ไปได้ และพร้อมที่จะเติบโตเมื่อถึงวันที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอีกครั้ง"
เกี่ยวกับออราเคิลออราเคิลเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ทางด้านเอนเตอร์ไพรซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับออราเคิล โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ http://www.oracle.com
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ รัชนีกร จิรสุขไพสิฐ
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด
โทร. 0 2662-2266--จบ--
-สส-