กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--กสท โทรคมนาคม
บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด (สอ.กสท.) จัดพิธีลงนามความร่วมมือในโครงการเช่าใช้บริการศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉิน และสำรองระบบคอมพิวเตอร์ โดยมี นายชัยยุทธ สันทนานุการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและการขายCAT และ นายพายัพ ไตรยวงค์ ประธานกรรมการ สอ.กสท. เป็นผู้แทนลงนาม ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารศูนย์บริการลูกค้า CAT สำนักงานใหญ่ ถนนแจ้งวัฒนะ
โครงการจัดทำศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและระบบสำรองคอมพิวเตอร์ (Disaster and Recovery Center : DRC) เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อบริหารจัดการความต่อเนื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศพร้อมทั้งการสำรองและกู้คืนข้อมูลสารสนเทศของ สอ.กสท. รองรับกรณีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน สารสนเทศที่สำคัญของ สอ.กสท. สามารถกู้คืนให้กลับมาทำงานได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็วและมีข้อมูลเป็นปัจจุบันมากที่สุด ทั้งนี้การลงนามดังกล่าวจัดเป็นการลงนามต่อเนื่องนับจากที่ได้ทำสัญญากันตั้งแต่ปี 2556 ที่ผ่านมา
โดยความร่วมมือนี้ CAT จะดำเนินการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับ สอ.กสท. ภายใต้มาตรฐานสากล Business Continuity Management (ISO 22301) พร้อมทั้งวางแผนการทดสอบการสำรองและกู้คืนข้อมูลสารสนเทศในสถานการณ์จำลองเสมือนจริง เพื่อสร้างความพร้อมทั้งในด้านการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายส่วนตัว (Private Network) ด้านบุคลากร ด้านการติดต่อสื่อสาร รวมถึงบริหารจัดการในด้านต่างๆ ที่สำคัญต่อการวางแผนการเตรียมการรองรับกรณีฉุกเฉิน
นายพายัพ ไตรยวงศ์ ประธานกรรมการ สอ.กสท. กล่าวว่า "การลงนามในวันนี้นับเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2559 รวมครบระยะเวลา 3 ปีแล้วนั้น สอ.กสท. มีความเชื่อมั่นในศักยภาพและคุณภาพการให้บริการ พร้อมทั้งการดูแลอย่างมืออาชีพที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ จึงได้มีมติเช่าใช้บริการศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและสำรองระบบคอมพิวเตอร์ กับ CAT ต่อเนื่องถึงปีพ.ศ. 2564 เพื่อให้ศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและสำรองระบบคอมพิวเตอร์ สามารถดำเนินการสำรองข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพการใช้งานมากยิ่งขึ้น"
นายชัยยุทธ สันทนานุการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและการขาย CAT กล่าวว่า " ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ CAT ยังคงให้บริการอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ สอ.กสท. ว่าในกระบวนการดำเนินงานในทุกขั้นตอนจะเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะส่งผลให้การให้บริการ และการดำเนินธุรกิจของ สอ.กสท. มีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพอย่างรอบด้าน นอกจากนี้ผมยังหวังให้ CAT และ สอ.กสท. สามารถพัฒนาขยายความร่วมมือในด้านอื่นๆ ต่อไปได้ในอนาคต"