กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--องค์การนิรโทษกรรมสากลประเทศไทย
องค์การนิรโทษกรรมสากลประเทศไทยเตรียมรณรงค์ให้ ประเทศไทยเป็นเขตปลอดการทารุณกรรมร่วมกับทั่วโลก วันที่ 18 ตุลาคมนี้ รักษาการณ์ผู้อำนวยการองค์การ นิรโทษกรรมสากล ระบุ ปัจจุบันมีการค้าอุปกรณ์ทรมาณกันอย่างครึกโครมโดยมีลูกค้ารายใหญ่คือรัฐ ประเทศ ที่ติดอันดับการทำทารุณ คือ ปากีสถาน และซาอุดีอาระเบีย นางเสาวนีย์ ลิมมานนท์ รักษาการผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากลประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ 18 ตุลาคมนี้ องค์การนิรโทษกรรมสากลจะมีการจัดรณรงค์ให้ทั่วโลกเป็นเขตปลอด การทำทารุณกรรม โดยมีสัญลักษณ์คือการใช้เทปสีเหลืองไปคาดล้อมรอบตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ที่สถานีตำรวจ หรือสถานที่ราชการ ทั้งนี้ สาเหตุที่องค์การนิรโทษกรรมสากลจัดการณรงค์ขึ้นก็เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีการ ทำทารุณกรรมในประเทศต่าง ๆ อย่างมาก มีการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ไม่เป็นที่เปิดเผย เช่น แส้ไฟฟ้า เข็มขัดไฟฟ้า กระบองไฟฟ้า เป็นต้น และมีธุรกิจการค้าอุปกรณ์เหล่านี้กันจำนวนมาก โดยมีการอ้างว่าเพื่อรักษาความมั่นคง ของรัฐ “เราจะมีการรณรงค์กันเป็นระยะเวลา 1 เดือน ใช้เทปสีเหลืองเหมือนกับที่เจ้าหน้าที่ราชการ มักชอบใช้เวลาที่เกิดเหตุและล้อมรอบไม่ให้บุคคลอื่นเข้าไป แม้ว่าประเทศไทยจะมีเรื่องการทำทารุณกรรม ไม่เด่นชัด แต่ก็ควรช่วยกันรณรงค์ โดยเฉพาะคนที่ติดคุกอยู่ในเรือนจำเราไม่รู้ว่าเขาถูกทำทารุณกรรมหรือไม่ เรื่องดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน” นางเสาวนีย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าว เพราะการทำ ทารุณนั้นยังมีปรากฏให้เห็น เช่น ที่ปากีสถานและซาอุดีอาระเบีย ที่ปากีสถานมีกฎหมาย หากผู้หญิงถูกข่มขืนและต้องการแจ้งความดำเนินคดีจะต้องมีพยานบุคคลที่เป็นผู้ชายเห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องยาก หรือเรื่องการใช้อุปกรณ์ที่โหดร้ายในขณะนี้ เช่น แส้ไฟฟ้า เมื่อฟาดลงไปจะไม่มีแผลให้เห็นหรือมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเมื่อ มีการฟ้องร้องว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายก็ไม่สามารถให้หลักฐานได้ นอกจากนี้ยังมีกรณีของผู้ถูกกล่าวหาว่าทำผิด และถูกจำคุกเพื่อรอการตัดสินคดีแต่ก็ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว--จบ--
-สส-