กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--ไวลด์เอด
รัฐบาลฮ่องกงประกาศแผนการออกกฎหมายยุติ การค้างาช้างในฮ่องกงเมื่อสองวันก่อน ถือเป็นการมอบของขวัญวันคริสต์มาสล่วงหน้าแก่บรรดาช้างแอฟริกาทั้งหลาย
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลกลางของฮ่องกง นายหว่อง คำ-ซิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า "รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะให้การคุ้มครองแก่สายพันธุ์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์และเราเป็นห่วงเรื่องปัญหาการลักลอบล่าช้างในแอฟริกาอย่างยิ่งฮ่องกงมีหน้าที่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามและการปฏิบัติภารกิจของประชาคมระหว่างประเทศในการยกระดับการให้ความคุ้มครองแก่ช้างรัฐบาลกำลังเตรียมแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติว่าด้วยการคุ้มครองสายพันธุ์สัตว์และพืชที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เพื่อให้มีแผนสามขั้นตอนที่จะค่อยๆยุติการค้างาช้างในเกาะฮ่องกงด้วยการใช้กฎหมายฉบับเดียวไปเลย โดยจะยื่นให้สภานิติบัญญัติพิจารณาในช่วงครึ่งแรกของปี 2560"
องค์กร WildAid (ไวลด์เอด) ขอยกย่องรัฐบาลฮ่องกงที่ดำเนินการแบบเป็นรูปธรรมเพื่อยุติการค้างาช้างในพื้นที่
และหวังว่าจะสามารถดำเนินการได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แหล่งข่าวของรัฐบาลฮ่องกงเปิดเผยว่ารัฐบาลเสนอที่จะเพิ่มโทษทางอาญาสำหรับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่าให้ สูงสุดถึง 10 ปีซึ่งเป็นอีกประการหนึ่งที่ องค์กร WildAid ขอชื่นชมเอาไว้ด้วยตามบทบัญญัติว่าด้วยการนำเข้าและส่งออกของฮ่องกง ระยะเวลา 10 ปีนับว่านานพอที่จะกระตุ้นให้บทบัญญัติว่าด้วยองค์กรอาชญากรรมและอาชญากรรมอุกฉกรรจ์ (OSCO) ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องได้ เพราะตามบทบัญญัติ OSCO แล้ว สำนักงานตำรวจฮ่องกงสามารถใช้อำนาจการสอบสวนของหน่วยอาชญากรรมทางการค้าและหน่วยองค์กรอาชญากรรมและสมาคมลับได้อย่างเต็มพิกัดอยู่แล้ว เมื่อทำเช่นนี้ได้เท่านั้นการบังคับใช้กฎหมายของฮ่องกงจึงจะสามารถทำลาย
ขุมเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกงและทำธุรกิจการค้าผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าแบบผิดกฎหมายกระจายอยู่ทั่วเกาะแห่งนี้มาหลายสิบปีโดยไม่มีใครลงโทษได้ในที่สุด
ทุกวันนี้ยังไม่มีการจับกุมตัวการใหญ่แม้แต่รายเดียวในข้อหาทำธุรกิจเครือข่ายองค์กรลักลอบค้าสัตว์ป่าแบบอุกฉกรรจ์ซึ่งกำลังทำให้สัตว์สายพันธุ์สำคัญๆตกอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ นี่ยังไม่นับเรื่องที่เครือข่ายเหล่านี้ทำให้ผู้คนมากมายใน
แอฟริกาต้องล้มตายไป ถ้าสมาชิกสภานิติบัญญัติของฮ่องกงสนับสนุนข้อเสนอของรัฐบาลในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ก็จะช่วยให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นได้
อเล็กซ์ ฮ็อฟฟอร์ด นักรณรงค์เพื่อสัตว์ป่าของ WildAid กล่าวว่า "เรายินดีอย่างยิ่งที่ในสุดรัฐบาลฮ่องกงกำลังจะยุติการการค้างาช้างของที่นั่นซึ่งเป็นหายนะภัยของช้างทั้งหลาย สถานการณ์ที่แอฟริกาขณะนี้ยังคงวิกฤตอยู่ เราอยากเสนอให้รัฐบาลฮ่องกงเร่งรัดการนำแผนการยุติการค้างาช้างมาใช้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ทั้งจีนและสหรัฐฯกำลังดำเนินการแบบเด็ดขาดเพื่อปิดตลาดการค้างาช้างของทั้งสองประเทศ ฮ่องกงเองก็สามารถเข้าร่วมกับประเทศทั้งสองในฐานะผู้นำของโลกเพื่อช่วยรักษาชีวิตของช้างเอาไว้ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่สำนักงานตำรวจฮ่องกงจะเริ่มเปิดการสืบสวนบรรดาตัวการใหญ่ของวงการอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่าซึ่งอยู่ที่เกาะของเราและเป็นผู้ที่เบียดเบียนจนสัตว์ป่าแอฟริกาตกอยู่ในสภาพเกือบสูญพันธุ์แล้ว"
WildAid และอลิซาเบธ กวัต สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงเป็นผู้นำในความพยายามที่จะต่อสู้กับการค้าสัตว์ป่าและต่อต้านการค้างาช้างแบบถูกกฎหมายจะมีก็แต่การยุติการค้างาช้างที่ฮ่องกงและปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเท่านั้นที่สามารถจะปราบปรามการค้าและควบคุมราคางาช้างได้การทำให้งาช้างราคาตกจะทำให้พวกลักลอบล่าช้างรู้สึกว่าทำไปก็ไม่คุ้มสมการเศรษฐศาสตร์ง่ายๆแบบนี้สามารถจะช่วยลดความต้องการงาช้างในฮ่องกงและที่แผ่นดินใหญ่จีนได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการยุติการฆ่าช้างเอางาในแอฟริกาอย่างเมามันและผิดกฎหมายตามไปด้วย
เพื่อช่วยให้ประชากรช้างป่าชุดสุดท้ายที่ยังคงเหลืออยู่ในแอฟริกามีชีวิตรอดอยู่ต่อไป องค์กร WildAid ขอเรียกร้องให้สาธารณชนและภาคส่วนต่างๆของฮ่องกง แสดงเจตนารมณ์และให้การสนับสนุนแผนของรัฐบาลที่จะยุติการค้างาช้างและเพิ่มโทษสูงสุดสำหรับการประกอบอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่าWildAid ขอเรียกร้องมายังประเทศไทยและญี่ปุ่นให้หยุดซื้องาช้างและปิดตลาดการค้างาช้างในประเทศลงด้วย