กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ประจำปี 2560 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค.59 เกิดอุบัติเหตุ 524 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 42 ราย ผู้บาดเจ็บ 565 คน กำชับจังหวัดเข้มข้นจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางขาออกสู่ภูมิภาค เพิ่มการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะและรถกระบะที่บรรทุกคน ควบคู่กับการเร่งระบายรถ โดยเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก รวมถึงคุมเข้มความปลอดภัยของรถโดยสาร เตรียมพร้อมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้เข้าถึงและส่งต่อผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างรวดเร็ว เน้นย้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งด่านชุมชนป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนเตรียมพร้อมก่อนเดินทาง หากประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ แจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือสายด่วน 1669 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน คนที่ 3 ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ประจำปี 2560 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ประจำปี 2560 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 524 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 42 ราย ผู้บาดเจ็บ 565 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา และขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 29.77 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.09 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 58.21 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.17 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.25 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 35.11 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 52.88 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,016 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 63,864 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 516,509 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 85,079 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 25,082 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 24,019 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (21 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี และพิษณุโลก (23 คน)
นายแพทย์โสภณ เมฆธน กล่าวว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ทำให้ปริมาณการจราจรบนเส้นทางสายหลักหนาแน่น ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้กำชับจังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้มข้นการจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางขาออกสู่ภูมิภาค กวดขันการขับรถเร็ว การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย และการขับรถย้อนศร พร้อมเพิ่มการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะ ทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะ ควบคู่กับการเร่งระบายรถ โดยเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณจุดตัดเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น พร้อมดำเนินมาตรการป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสาร โดยคุมเข้มการตรวจสอบสภาพรถและการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถ ตลอดจนเตรียมความพร้อมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้เข้าถึงและส่งต่อผู้ประสบอุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมทั้งจัดเตรียมระบบสื่อสารแจ้งเหตุ ทีมแพทย์ พยาบาล อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย อุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ กรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายชยพล ธิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้กำชับให้ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ระดับจังหวัดและอำเภอ บูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น โดยเข้มงวดการเรียกตรวจและบังคับใช้กฎหมาย อย่างจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินมาตรการทางสังคม โดยจัดตั้งด่านชุมชนเพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ให้จังหวัดประเมินสถานการณ์อุบัติเหตุในพื้นที่ พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและวางมาตรการเชิงป้องกันให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ประจำปี 2560 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้บูรณาการจังหวัดและทุกภาคส่วนสร้างความปลอดภัยทางถนน ในมิติเชิงพื้นที่ โดยยึดการดำเนินงานตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 46/2558 อย่างจริงจัง โดยเข้มงวดการขับรถเร็วและการเมาแล้วขับ นอกจากนี้ ให้จังหวัดวางมาตรการป้องกันอุบัติภัยทางน้ำควบคู่กันไปด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าประชาชนบางส่วนเดินทางถึงพื้นที่และเริ่มเฉลิมฉลองแล้ว จึงได้กำชับให้จังหวัดดูแลถนนสายรอง โดยใช้กลไกของจุดตรวจร่วมและด่านชุมชนกวดขันการดื่มแล้วขับ โดยเฉพาะบริเวณสถานบันเทิงและสถานที่จัดกิจกรรม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ท้ายนี้ ขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนเตรียมพร้อมก่อนเดินทาง โดยนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสอบสภาพรถ ศึกษาและเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย หากขับรถระยะทางไกล ควรจอดพักรถในบริเวณที่ปลอดภัยหรือจุดบริการบนเส้นทางสายต่างๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงแล้วขับ สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือสายด่วน 1669 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
"ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร"
0-2243-0674 0-2243-2200www.disaster.go.th