กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปี 2560 ซึ่งเป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานการเกษตรสู่ความยั่งยืนคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรมีการประชุมเมื่อ วันที่ 26 ธันวาคม 2559 มีมติเห็นชอบให้ประกาศมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีสำหรับทุเรียนแช่เยือกแข็ง เป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อควบคุมคุณภาพทุเรียนแช่เยือกแข็งส่งออก ให้มีการผลิตที่ถูกสุขลักษณะครอบคลุมทุเรียนแช่เยือกแข็ง ในรูปทุเรียนทั้งผล เนื้อทุเรียนที่มีหรือไม่มีเมล็ดเนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาด้านคุณภาพและการผลิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในวงกว้าง จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องบังคับใช้ให้ทันฤดูกาลผลิตทุเรียนที่จะออกในช่วงเดือนมีนาคม โดยคาดว่าน่าจะมีผลบังคับใช้พฤษภาคม 2560
"ที่ผ่านมาในธุรกิจทุเรียนแช่เยือกแข็ง มีผู้ประกอบการบางกลุ่มที่ขาดความรับผิดชอบ สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์การส่งออกทุเรียนแช่เยือกแข็งของไทย โดยผู้ประกอบการเหล่านี้จะตั้งเต๊นท์หรือตู้คอนเทนเนอร์ข้างถนน รับซื้อทุเรียนที่ไม่มีคุณภาพ จากนั้นนำมาแช่แข็งในสถานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ไม่มีห้องเย็น ไม่มีอาคารโรงงานและการควบคุมความสะอาด แล้วส่งออกไปต่างประเทศในราคาถูก ทำให้ในช่วงเดือนที่ผ่านมาเริ่มเกิดปัญหาประเทศผู้นำเข้าปฏิเสธการนำเข้า สินค้าถูกตีกลับ เนื่องจากพบเชื้อจุลินทรีย์อันตราย ที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วง เช่น ซาโมเนลลา (Samonella) ในเนื้อทุเรียนที่แกะเปลือกแช่แข็ง นอกจากนี้ยังพบศัตรูพืช จำพวก เพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง ติดไปกับทุเรียนแช่แข็งทั้งผลด้วยซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการส่งออกในภาพรวม รวมถึงผู้ประกอบการที่ผลิตตามมาตรฐาน" พลเอก ฉัตรชัย กล่าว
ด้านนางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยสภาพปัญหาที่พบ กระทรวงเกษตรฯ จึงได้จับมือกับเอกชน และสมาคมผู้ส่งออกผลไม้ไทย หามาตรการกำกับดูแลคุณภาพทุเรียนแช่เยือกแข็ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศผู้นำเข้า รวมทั้งภาพลักษณ์สินค้าของไทย โดยกำหนดกระบวนการผลิตทุเรียนทุเรียนแช่เยือกแข็ง เป็นมาตรฐานบังคับที่ผู้ส่งออกต้องปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ ตามมาตรฐานจะกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องรับซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพปลอดภัย มีการตรวจสอบวัตถุดิบก่อนการรับซื้อ และในทุกขั้นตอนที่มีการสัมผัสทุเรียน ต้องมีการรักษาความสะอาด และการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาปนเปื้อนทุเรียนได้ นอกจากนี้เมื่อแช่แข็งแล้วต้องรักษาอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ ให้อยู่ในระดับไม่เกิน -18 องศาเซลเซียส ตลอดระยะการขนส่งจนถึงมือผู้บริโภค อย่างไรก็ตามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการที่มีการผลิตและสต๊อกสินค้าไว้ก่อนหน้ามกอช. และกรมวิชาการเกษตร จะขอความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้มีการตรวจสอบเชื้อจุลินทรีย์เพื่อควบคุมคุณภาพก่อนการส่งออก โดย กระทรวงเกษตรฯ จะกำหนดให้มาตรฐานนี้มีผลบังคับใช้ในราวเดือน พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นฤดูกาลผลิตทุเรียนที่จะมาถึง
"ทุเรียนแช่เยือกแข็งเป็นสินค้าที่มีการส่งออกจำนวนมาก และขยายตัวอย่างต่อเนื่องเกือบเท่าตัวในทุกปี โดยในปี 2558 มีปริมาณการส่งออกมากกว่า 22,200 ตัน คิดเป็นมูลค่าสูงถึง1,945 ล้านบาทตลาดที่ส่งออกหลักได้แก่จีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลี การผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็งนอกจากจะช่วยยืดอายุการวางจำหน่ายแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรแก้ไขปัญหาทุเรียนล้นตลาดด้วยปัจจุบันไทยมีพื้นที่ปลูก จำนวนมากกว่า 600,000 ไร่ ครอบคลุมทุกภูมิภาค การบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าว จะสร้างความมั่นใจให้กับประเทศผู้นำเข้า สามารถขยายตลาดส่งออกสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนและผู้ประกอบการทุเรียนแช่เยือกแข็งได้เพิ่มมากขึ้น" นางสาวดุจเดือน กล่าว