กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.43) เวลา 12.00 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แถลงถึงการเดินทางไปประชุมผู้ว่าราชการและผู้นำเมืองใหญ่ของโลก 31 เมืองที่กรุงปักกิ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตนได้เสนอแนวคิดในการหารือร่วมกับธนาคารจีน (Bank of China) และธนาคารเซี่ยงไฮ้ (Bank of SeingHai ) เกี่ยวกับการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของ กทม. อาทิ โครงการรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยาย ฯลฯ ว่า จะให้ธนาคารต่างประเทศ หรือธนาคารในประเทศไทยออกพันธบัตรให้กับประชาชนในประเทศไทย ในอัตราดอกเบี้ย 5.5 % แล้วนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรให้นักลงทุนหรือผู้รับเหมาก่อสร้างกู้ เพื่อไปลงทุนในอัตราดอกเบี้ย 6.5 % โดยธนาคารที่ออกพันธบัตรจะได้ดอกเบี้ย 1 % ซึ่งแนวคิดนี้หากได้รับการยอมรับจะทำให้ผู้ลงทุนการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของกทม.ไม่เป็นของต่างประเทศเหมือนโครงการอื่น ๆ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ธนาคารจีนและธนาคารเซี่ยงไฮ้ได้เห็นด้วยในหลักการ แต่ขอระยะเวลาในการตัดสินใจ
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวต่อไปว่า หากธนาคารทั้ง 2 เห็นด้วยกับการออกพันธบัตรในประเทศไทยให้กับคนไทย ในโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส 3 สาย ซึ่งจะมีบริษัทเซี่ยงไฮ้ เมโทร คอนสตั๊คชั่น คอมปานี หรือ (SMCC) ร่วมลงทุน โดยการกู้เงินจากการออกพันธบัตรร่วมกับบริษัทระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพฯ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในการดำเนินโครงการส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ซึ่งในระยะยาวจะทำให้รถไฟฟ้า BTS มีค่าโดยสารต่ำลงถึง 10-15 บาท รวมทั้งกทม.ยังจะได้เงินกู้ในการลงทุนจาก Bang of KFW ประเทศเยอรมันนีอีกด้วย และแนวคิดนี้หากธนาคารในประเทศไทยเห็นด้วยหรือต้องการออกพันธบัตรก็ขอให้แสดงความจำนงมาได้ รวมทั้งแนวคิดดังกล่าวหากได้รับการยอมรับจะทำให้คนไทยได้ประโยชน์อย่างมาก จากนั้นตนจะนำแนวคิดนี้ไปดำเนินการกับการก่อสร้างศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง งบประมาณ 5,000 ล้านบาท และโครงการสงเคราะห์ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (แฟลตข้าวโพด) เป็นอันดับแรก
ทั้งนี้ได้ประมาณการในการผ่อนชำระโครงการก่อสร้างศาลาว่าการกทม.2 ในระยะเวลา 10 ปี อัตราดอกเบี้ยรวมเงินต้นที่ กทม.ต้องชำระคิดเป็น 2% ของงบประมาณทั้งหมดของ กทม. หรือประมาณ 600 ล้านบาท/ปี ซึ่งความคืบหน้าแนวคิดดังกล่าวตนจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป--จบ--
-นศ-