กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--สำนักวิจัยซูเปอร์โพล
ดร.นพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง กฎหมายคุมยาสูบในใจของนักสูบ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพอายุ 18 ปีขึ้นไประดับครัวเรือนใน 15 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พิษณุโลก ตาก ขอนแก่น บึงกาฬ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ อยุธยา ลพบุรี นนทบุรี ราชบุรี ชลบุรี สงขลา และ สุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 5,019 ตัวอย่าง ระหว่าง วันที่ 20 ธันวาคม 2559 – 6 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา พบว่า
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.3 ระบุกฎหมายควบคุมยาสูบฉบับใหม่ควรเน้นการป้องกันเด็กและเยาวชนหน้าใหม่ในการสูบบุหรี่ มาเป็นอันดับแรก รองลงมาคือร้อยละ 92.5 ระบุการขายบุหรี่ให้เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเป็นการทำผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนหน้าใหม่สูบบุหรี่ ร้อยละ 88.6 ระบุกฎหมายห้าม การโชว์บุหรี่ ณ จุดขายเพราะถือว่าเป็นการโฆษณา เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ถูกชวนสูบบุหรี่ ร้อยละ 84.8 ระบุกฎหมายควบคุมยาสูบต้อง ห้ามการขายเป็นมวน ห้ามแบ่งซองขาย เพื่อลดโอกาสของเด็กและเยาวชนในการซื้อบุหรี่ ตามลำดับ
ที่น่าสนใจคือ ทั้งกลุ่มคนที่สูบบุหรี่ และ กลุ่มคนที่ไม่สูบบุหรี่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.0 และ 95.2 เห็นด้วยที่ กฎหมายควบคุมยาสูบฉบับใหม่ควรป้องกันเด็กและเยาวชนหน้าใหม่ในการสูบบุหรี่ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ของทั้งสองกลุ่มเช่นกัน คือร้อยละ 88.4 และร้อยละ 93.7 เห็นด้วยต่อ การขายบุหรี่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเป็นการทำผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนหน้าใหม่สูบบุหรี่ จำแนกระหว่าง กลุ่มสูบ กับ กลุ่มไม่สูบ
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่ของกลุ่มนักสูบ หรือร้อยละ 81.8 และกลุ่มคนไม่สูบหรือร้อยละ 90.5 เห็นด้วยต่อ กฎหมายห้าม การโชว์บุหรี่ ณ จุดขายเพราะถือว่าเป็นการโฆษณา เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ถูกชักจูงให้สูบบุหรี่
เมื่อถามถึง กฎหมายคุมยาสูบที่กำลังพิจารณาในชั้นของ สภานิติบัญญัติฯ อยู่ในเวลานี้ พบว่า ส่วนใหญ่ของทั้งสองกลุ่มนี้ได้แก่ร้อยละ 77.8 ของกลุ่มนักสูบ และร้อยละ 86.8 ของกลุ่มคนไม่สูบ เห็นด้วยต่อ กฎหมายควบคุมยาสูบต้อง ห้ามการขายเป็นมวน ห้ามแบ่งซองขาย เพื่อลดโอกาสเด็กและเยาวชนในการซื้อบุหรี่ จำแนกระหว่าง กลุ่มสูบ กับ กลุ่มไม่สูบ ตามลำดับ