กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) และสำนักศิลปากรในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 10จังหวัด ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้สำรวจผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานในสังกัดและที่เกี่ยวข้องกับวธ. โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา พบว่า มีโบราณสถานได้รับผลกระทบ 19 แห่ง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น 3 แห่ง ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช 6 แห่ง วิทยาลัยนาฏศิลป์ 1 แห่ง วิทยาลัยช่างศิลป์ 1 แห่ง เครือข่ายวัฒนธรรม 2 แห่ง ศิลปินพื้นบ้าน 34 คน ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม 3 คน และศิลปินร่วมสมัยได้รับผลกระทบ 35 คน เป็นต้น
นายวีระ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ในจังหวัดต่างๆ อาทิ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 7 อำเภอ ขณะนี้มีโบราณสถานได้รับผลกระทบ 4 แห่ง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น 2 แห่ง ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช 1 แห่ง และข้าราชการสังกัดวธ.ที่ได้รับผลกระทบ 14 คน ส่วนเหตุการณ์ น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 23 อำเภอ มีโบราณสถานได้รับผลกระทบ 10 แห่ง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 1 แห่ง ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช 1 แห่ง วิทยาลัยนาฏศิลป์ 1 แห่ง วิทยาลัยช่างศิลป์ 1 แห่ง ศิลปินพื้นบ้าน 29 คน ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม 1 คน ศิลปินร่วมสมัยได้รับผลกระทบ 8 คน ข้าราชการและบุคลากรสังกัด วธ. ได้รับผลกระทบ 84 คน ทั้งนี้ยังได้รับรายงานอีกว่า สำนักงานของสวจ.นครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนจังหวัดพัทลุง ซึ่งมีน้ำท่วมใน 11 อำเภอ ขณะนี้พบว่ามีศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช 1 แห่ง ได้รับผลกระทบ มีศิลปินพื้นบ้าน 4 คน และผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม 2 คน รวมทั้งมีศิลปินร่วมสมัยได้รับผลกระทบ 1 คน ขณะที่นราธิวาส มีศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช 2 แห่ง จังหวัดสงขลา มีแหล่งโบราณสถานได้รับผลกระทบ 2 แห่ง ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช 1 แห่ง และจังหวัดตรังมีศิลปินร่วมสมัยได้รับผลกระทบ 26 คน ส่วนจังหวัดอื่นๆ อาทิ ชุมพร กระบี่ อยู่ระหว่างการสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมศิลปากร สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และสวจ. ติดตามและสรุปข้อมูลทั้งโบราณสถาน แหล่งเรียนรู้ ศิลปินพื้นบ้านและศิลปินทุกแขนงที่วธ.ดูแล และที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ โดยให้รายงานข้อมูลมายังส่วนกลางอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญได้ให้แต่ละหน่วยงานจัดทำแผนการบูรณะ ซ่อมแซม ฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานจัดทำแผนของบประมาณเพื่อใช้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้ว