กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าธนาคารกสิกรไทยประกาศผลการดำเนินงานสำหรับปี 2559 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน40,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.77%
ผลการดำเนินงานสำหรับ ปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 40,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 700 ล้านบาท หรือ1.77% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 4,666 ล้านบาท หรือ5.49% โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM)อยู่ที่ระดับ 3.52% รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 1,222 ล้านบาท หรือ 1.96%โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดทุนที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลงจำนวน 2,802 ล้านบาท หรือ 4.20% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 41.63% อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความไม่แน่นอนในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 4 ปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ปี2559 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,244 ล้านบาทลดลงจากไตรมาสก่อนจำนวน 612 ล้านบาทหรือ 5.64% เกิดจากค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน1,798 ล้านบาท หรือ 11.37% จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายทางการตลาดซึ่งเป็นปกติตามฤดูกาล ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 653ล้านบาท หรือ 2.92% โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.47% ซึ่งทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) ในไตรมาสนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 46.14%
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 4 ปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2559ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 4,767 ล้านบาท หรือ 87.06%
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ธนาคารและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 2,845,868ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558 จำนวน 290,563 ล้านบาท หรือ 11.37% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินสุทธิ เงินลงทุนสุทธิ และเงินให้สินเชื่อ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 31 ธันวาคม2559 อยู่ที่ระดับ 3.32% ขณะที่สิ้นปี 2558 อยู่ที่ระดับ 2.70% อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 อยู่ที่ระดับ130.92% โดยสิ้นปี 2558 อยู่ที่ระดับ 129.96% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Base lIII ณ วันที่31 ธันวาคม 2559 อยู่ที่ 18.84% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.16%