กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเปรียบเสมือนดั่งพ่อผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ "พ่อ" ได้ทรงทุ่มเทพระราชหฤทัยและพระวรกายเพื่อที่จะนำพาประเทศไปสู่การ พัฒนาอันยั่งยืน ทัดเทียมนานาอารยประเทศ โดยมิได้ทรงละทิ้งเอกลักษณ์และภูมิปัญญาอันล้ำค่าที่มีอยู่คู่แผ่นดินไทย "พ่อ" ทำงานหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศาสตร์ของพ่อมีมากกว่า 4,596 โครงการทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการอนุรักษ์น้ำ ดิน หรือป่าไม้ เกิดขึ้นจาก พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการคิดค้น ดัดแปลง ปรับปรุง และแก้ไขทฤษฎีและวิธีการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้อง กับสภาพความเป็นอยู่ของพสกนิกรและระบบนิเวศ อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย ดังนั้น เราจึงขนานนามในหลวงของเราว่า "พระบิดาแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม"
"หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วน จึงน้อมนำหลักการของ"พ่อ" ในการดูแลและปลูกฝังจิตสำนึกของพวกเราในการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม หล่อหลวมรวมเป็นพลังในการขับเคลื่อน ก่อตั้ง และสร้างสรรค์โครงการและกิจกรรมดำเนินตามรอยเท้าของ"พ่อ" สืบต่อไป ซึ่งจังหวัดนนทบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา มีคลองมากมาย มีความผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวจังหวัดนนทบุรีมาเนิ่นนาน มีความสัมพันธ์และใกล้ชิดกับคลองมาโดยตลอด ทั้งในชุมชน เมืองและชนบท ที่ได้อาศัยคลองเพื่อการดำรงชีวิตที่ยาวนาน แต่ปัจจุบัน การที่จังหวัดนนทบุรี เป็นชุมชนเมืองที่รองรับความเจริญเติบโตของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในด้านที่อยู่อาศัยการค้า การบริการ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเมืองอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม แม่น้ำ คูคลอง หลายแห่งกลายเป็นพื้นที่รองรับ น้ำเสียจากชุมชนและสถานประกอบการต่างๆ และได้เริ่มต้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ดำเนิน โครงการคลองสวยน้ำใสถวายในหลวงขึ้น โดยมีแนวทางให้ทั้งภาครัฐฯ และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์แม่น้ำ คูคลอง ให้มีความสะอาด สวยงามและดำรงไว้ซึ่งวิถีชีวิตที่งดงามของคนนนทบุรี"
นายอุดร ระโหฐาน ผอ.กองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พูดถึงแรงบันดาลใจและที่มาของการร่วมมือของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี, สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพบริหารการศึกษาเอกชนนนทบุรี จัดงาน โครงการคลองสวยน้ำใส ถวายในหลวง ต่อเนื่องเป็นปีทรี่ ๑๐ ปีนี้ใช้ชื่นตอน "รักษ์สิ่งแวดล้อม...ตามรอยพ่อ" (งานจัดขึ้นในวันที่ ๒๑-๒๒ มกราคม ณ ชั้น ๔ เวสต์เกตฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต จ.นนทบุรี)
ภายในงานจัดเป็นสามส่วนสำคัญ แต่ละส่วนมีไฮไลท์น่าสนใจ ตั้งแต่โซนแรก การจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมหลากหลาย อาทิ นิทรรศการน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ จาก ๗๐ บูธโรงเรียน, นิทรรศการย้อนตำนานของดี จ.นนทบุรี เช่น หม้อทะนน (เครื่องปั้นดินเผามีชื่อ ใช้เพาะพันธุ์ทุเรียน และเป็นภาชนะนำต้นกล้าทุเรียนนนท์ ไปปลูกยังที่อื่นๆ ) , ทุเรียนนนท์ สุดยอดทุเรียนไทย ราคาเหยียบครึ่งแสน ไม่ใช่เศรษฐีไม่ได้เกิน ออกสู่ตลาดปีละไม่กี่ร้อยลูก มีกว่าร้อยสายพันธุ์ ซึ่งหกสิบถึงเจ็ดสิบสายพันธุ์มีแหล่งกำเนิดและเติบโตได้ดีที่ จ.นนทบุรีฯลฯ โซนสอง บนเวที พบการแสดง ฟังลีลาเยาวชนคนเก่ง จากการประกวด หนูน้อยนักเล่านิทานคุณธรรมจากพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม คติสอนใจ ให้ได้ฟังอย่างซาบซึ้ง
นอกจากนี้ อีกโซนที่เด็ดดวง เข้าธีม "รักษ์สิ่งแวดล้อม ตามรอยพ่อ" อย่างชัดเจน ตรงประเด็น คือ ไอเดียรักษ์โลกต่างๆ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เรื่อง น้ำพริกดอง พลัง Power 3 ด.ญ.อมลรดา มูลกิตติ,ด.ญ.ทองนที สุขปรุง, ด.ช.วิชญวัฒน์ หงสกุล โรงเรียนเทพประทานพร "น้ำพริกดองที่ได้จากร้านอาหารตามสั่ง ร้านกับข้าวสำเร็จรูป ที่ซื้อกลับบ้านส่วนใหญ่แล้วประชาชนจะไม่ค่อยนิยมนำมาปรุงรส แล้วบางงคนก็นำมาถุงพริกน้ำส้มไปทิ้งรวมกับขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่ยังไม่มีการย่อยที่สมบูรณ์ โดยหารู้ไม่ว่าอาจจะก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม พวกเราจึงได้ทำการศึกษาวิธีที่จะนำเอาน้ำส้มพริกดองมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยการนำมาทำเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานเอนกประสงค์เชิงชีวภาพและเกษตรอินทรีย์ใช้ทำความสะอาดบริเวณที่มีตะกรั่นของหินปูน คราบไขมัน กำจัดกลิ่นบริเวณท่อระบายน้ำ กำจัดแมลงภายในบ้านและกำจัดป้องกันศัตรูพืชฟื้นฟูบำรุงดินที่มี่ความเป็นด่าง ฯลฯ"
"นับเป็นการบูรณาการความรู้ในรูปแบบ STEM ครบถ้วน คือ S (วิทยาศาสตร์) ทดลองคุณสมบัติของน้ำส้มพริกดอง T (เทคโนโลยี) นำน้ำส้มพริกดองมาประยุกต์ใช้ในงานด้านกำจัดกลิ่น กำจัดแมลงและอื่นๆ E (วิศวกรรมศาสตร์) นำน้ำส้มพริกดองมาประยุกต์ใช้งานในด้านกำจัดกลิ่น กำจัดแมลง และอื่นๆ M (คณิตศาสตร์) เรียนรู้ผ่านการชั่ง ตวง วัด วัสดุอุปกรณ์ น้ำส้มพริกดอง น้ำหมัก E.M. น้ำเปล่า ตระแกรง/กระชอน ขวดสเปรย์ ผ้าขาวบง บีกเกอร์ ประโยชน์ที่ได้รับ นำน้ำส้มพริกดองมาพัฒนา นำไปใช้ได้ประโยชน์สูงสุด ช่วยลดขยะ สิ่งปฏิกูลในสิ่งแวดล้อมได้ นำไปประยุกต์ใช้งานด้านอื่นๆ"
ไอเดียโครงงานการจัดการขยะครบวงจร เรื่อง ขยะ...สร้างประโยชน์ โดย ด.ช.บดินทร์ อาษากิจ ด.ช.พุฒิธร ตรีสัตย์ด.ช.ภูมิสิษฐ์ ศรีวีระนุรัตน์ โรงเรียนประสาทวิทยานนทบุรี "การจัดทำโครงงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อนำวัสดุเหลือใช้มาดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ และเพิ่มมูลค่าให้กับของที่ไม่ใช้แล้ว 2.เพื่อลดปัญหาขยะภายในโรงเรียน 3. รณรงค์ให้มีการร่วมมือกัน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน 4. สนองพระราชดำริตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ผลการศึกษาและจัดทำโครงงานพบว่าในการลดปริมาณขยะตามหลัก 1A3R ทำให้เกิดนิสัยทิ้งขยะให้ถูกที่ และคัดแยกประเภทของขยะ จากขยะที่คัดแยก เช่น ขวดน้ำพลาสติก ขวดนม ถุงนม ไม้ไอศกรีม ซองขนมจากโรงเรียน มาประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตามความคิดสร้างสรรค์ เพื่อลดปัญหาขยะที่ไร้ประโยชน์มาสร้างสรรค์เป็นสิ่งสวยงามมีคุณค่า และยังสามารถสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น จากผลการดำเนินงาน ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ ได้หลายประเภท เช่น กระเป๋าประเภทต่าง ๆ กล่องกระดาษชำระ เก้าอี้ หมวก ฯลฯ และมีการทดสอบความคงทนรวมถึงอายุการใช้งาน ซึ่งเฉลี่ยเท่ากับวัสดุอื่นๆ เพียงแต่ไม่มีการผลิตขึ้นใหม่ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากร และลดจำนวนขยะได้ ทำให้มีการทิ้งน้อยลง โรงเรียนสะอาด อีกทั้งนักเรียนเกิดความสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำสิ่งประดิษฐ์ขายและมีรายได้กลับคืนโรงเรียน เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไป"
ทุกงานการสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย แต่จะสำเร็จอย่างยั่งยืนได้ ก็ต้องอาศัยการปลูกฝังตั้งแต่ระดับเยาวชนเช่นนี้ !! อุ่นใจที่เราจะมีโลกสวยๆ ส่งต่อให้ลูกหลานไทยไปตลอด