กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยร่วมเดินสายทุกภูมิภาคทั่วประเทศให้ความรู้สร้างความเข้าใจในโครงการ "พร้อมเพย์" บริการรับเงินและโอนเงินทางเลือกใหม่โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือเลขประจำตัวประชาชนแทนเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร เพิ่มความสะดวก ประหยัด และปลอดภัย ในการรับเงินและโอนเงิน พร้อมเชิญชวนให้ใช้พร้อมเพย์ เพื่อก้าวสู่ระบบการเงินยุคดิจิทัลของประเทศไทย ย้ำพร้อมเปิดให้บริการการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลอย่างเป็นทางการ ในไตรมาสแรกของปี 2560
งานสัมมนาให้ความรู้โครงการ "พร้อมเพย์" ในหัวข้อ "การเงินยุคใหม่ คนไทยยุคดิจิทัล" จัดขึ้นใน 3 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่ สงขลา (หาดใหญ่) และขอนแก่น ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากประชาชน ตัวแทนธนาคาร ตัวแทนหน่วยงานรัฐ และสื่อมวลชน เป็นอย่างดี โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาจากทั้ง 3 จังหวัดรวมถึงจังหวัดใกล้เคียงมีจำนวนรวมกว่า 1,200 คน โดยมีทีมผู้บริหารจากธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย นำโดย นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย นายบัญชา มนูญกุลชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และนายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิจากธนาคารต่าง ๆ ให้เกียรติมาเป็นวิทยากร ร่วมพูดคุยและไขข้อสงสัยให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "นอกจากมีโอกาสได้ชี้แจงเกี่ยวกับบริการพร้อมเพย์แล้ววิทยากรได้รับคำถามจากผู้เข้าร่วมสัมมนา อาทิ การใช้งาน ทั้งด้านการใช้พร้อมเพย์เพื่อรับและโอนเงินและการใช้พร้อมเพย์เพื่อรับสวัสดิการรัฐ ความปลอดภัยของระบบ ตลอดจนวิธีการสมัคร เปลี่ยนแปลงหมายเลขที่ผูกกับบัญชี และยกเลิกบริการพร้อมเพย์ นอกจากนี้ เรายังได้รับข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ เช่น การใช้พร้อมเพย์ชำระค่าสินค้าและบริการ เช่น ตั๋วเครื่องบิน หรือเพื่อรับเงินรางวัลต่าง ๆ เป็นต้น
ช่วงอบรมตัวแทน 'Train the Trainers' จากแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างเข้มข้น วิทยากรไขข้อข้องใจด้วยคำตอบที่ลงลึกและรอบด้าน ทำให้เราเชื่อมั่นว่าตัวแทนจากแต่ละธนาคารและเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เข้ารับการอบรมจะสามารถนำข้อมูลไปถ่ายทอดได้อย่างถูกต้อง ผู้ที่ผ่านการอบรม จากงานสัมมนาครั้งนี้จะได้เป็น 'PromptPay Champions' หลังจากนี้ จะมีการให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่องเช่นกัน"
ในงานสัมมนา นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย ได้ให้ความกระจ่างในประเด็นที่ประชาชนทั้ง 3 จังหวัดมีความกังวลคล้ายคลึงกันว่า "หลายท่านกังวลว่าการนำ
เลขประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือไปผูกบัญชี จะทำให้ข้อมูลไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวล้วนเป็นข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนที่ธนาคารเก็บรักษาให้ลูกค้าอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนที่ลูกค้าแจ้งข้อมูลเหล่านี้เมื่อเปิดบัญชีเงินฝาก และการสมัครบริการพร้อมเพย์ด้วยตัวเองเป็นการยืนยันว่าท่านต้องการใช้หมายเลขเหล่านี้ในการรับเงินด้วยพร้อมเพย์จริง นอกจากนี้ หากมีการโอนเงินผิดพลาด ลูกค้าก็สามารถแจ้งธนาคารต้นทางที่โอนเงินได้ทันที โดยธนาคารมีขั้นตอนการดูแลลูกค้า เช่นเดียวกับการให้บริการโอนเงินอื่น ๆ ในปัจจุบัน"
"ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยยินดีที่แต่ละธนาคารให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่นอกจากมาเข้าร่วมการสัมมนาแล้ว ยังได้มีการจัดบูธเพื่อให้ความรู้ ซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับงานได้เป็นอย่างดี ส่วนผลตอบรับจากภาคประชาชนและสื่อมวลชนก็เป็นที่น่าพอใจ หลายท่านอยากให้มีการจัดสัมมนาแบบนี้ขึ้นในจังหวัดอื่นๆ อีก โดยกล่าวว่าการสื่อสารในรูปแบบนี้สามารถทำให้ทุกท่านเข้าใจอย่างชัดเจน หากมีข้อสงสัยใดใดก็สอบถามวิทยากรได้ทันที" นางสาวสิริธิดากล่าวเสริม
ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยยังคงมุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับบริการพร้อมเพย์ โดยจะมีการจัดสัมมนาสัญจรเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังจะเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับบริการพร้อมเพย์ผ่านสื่อและช่องทางต่างๆ ที่ประชาชนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย เช่น ภาพยนตร์โฆษณา และเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ เริ่มต้นในปี2560 นี้