กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลาปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 54 อำเภอ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดดินไหล ดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยช่วงวันที่ 21 – 22 มกราคม 2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมสถานที่ปลอดภัยสำหรับเป็นจุดอพยพหรือจุดพักพิง หากสถานการณ์รุนแรงให้แจ้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อประสานให้การช่วยเหลือประชาชนโดยด่วนต่อไป
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลาปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ประกอบกับกรมทรัพยากรธรณีคาดการณ์ว่าช่วงระหว่างวันที่ 21 – 22 มกราคม 2560 อาจเกิดดินไหล ดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำตาปี ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ ฝั่งตะวันตก และลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสาน 9 ภาคใต้ รวม 54 อำเภอ ประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี จำนวน 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา อำเภอดอนสัก อำเภอท่าฉาง อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอบ้านนาสาร อำเภอพนม อำเภอพระแสง อำเภอวิภาวดี อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอเวียงสระ นครศรีธรรมราช 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอนบพิตำ อำเภอลานสกา อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพิปูน อำเภอสิชล อำเภอฉวาง อำเภอขนอม และอำเภอเชียรใหญ่ ตรัง 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอห้วยยอด อำเภอนาโยง อำเภอย่านตาขาว อำเภอปะเหลียน และอำเภอวังวิเศษ สตูล 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมะนัง อำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอควนกาหลง พัทลุง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีบรรพต อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา และอำเภอตะโหมด สงขลา 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสะเดา อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอจะนะ และอำเภอรัตภูมิ ปัตตานี 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอมายอ และอำเภอสายบุรี ยะลา 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอธารโต อำเภอเบตง อำเภอบันนังสตา และอำเภอกรงปินัง นราธิวาส 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงปาดี อำเภอรือเสาะ อำเภอระแงะ อำเภอศรีสาคร และอำเภอจะแนะ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดดินไหล ดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย และติดตั้งป้ายเตือนบริเวณพื้นที่ที่เคยเกิดดินไหล ดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนัก โดยดำเนินการผ่านวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือช่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี สื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงจัดเตรียมสถานที่ปลอดภัยสำหรับเป็นจุดอพยพหรือจุดพักพิง เพื่อให้สามารถอพยพประชาชนไปยังจุดปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที หากสถานการณ์รุนแรงให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย หากสถานการณ์รุนแรงเกินศักยภาพที่จังหวัดสามารถรับมือสถานการณ์ภัยได้ ให้แจ้งกองบัญชารการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อประสานให้การช่วยเหลือประชาชนโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 9 จังหวัดดังกล่าว ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอันตรายจากปริมาณฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดดินไหล ดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากได้ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสาน ให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป