กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) โดยกระทรวงมหาดไทย รายงานอุทกภัยภาคใต้คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง ยะลา สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส นายกรัฐมนตรีห่วงใยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ สั่งการ บกปภ.ช. ประสานจังหวัดเร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายของบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยของประชาชนโดยละเอียด โดยพื้นที่ที่มีกรรมสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายจะได้รับการเยียวยาเป็นลำดับแรก สำหรับด้านสาธารณูปโภคที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากงบประมาณไม่เพียงพอ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดสรรงบประมาณจากวงเงินทดรองราชการ เพื่อซ่อมแซมให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว รวมถึงนำเสนอแผนงานและงบประมาณในการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ด้านการเกษตร ให้จ่ายเงินเยียวยาตามหลักเกณฑ์ หากเสียหายโดยสิ้นเชิงให้ส่งเสริมอาชีพและจ้างงานระยะสั้นตามความเหมาะสม
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หัวหน้าศูนย์ประสานการปฏิบัติ ภายใต้ บกปภ.ช. เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมคลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง ยะลา สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส นายกรัฐมนตรีห่วงใยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้สั่งการให้ บกปภ.ช. ประสานจังหวัดดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีที่สุด โดยเร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายของบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยของประชาชนอย่างละเอียด พร้อมระบุพื้นที่เป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลให้หน่วยปฏิบัติวางแผนให้การช่วยเหลือบ้านเรือนประชาชนได้อย่างเหมาะสม เบื้องต้นให้ตรวจสอบข้อมูลความเสียหายเชิงพื้นที่ ซึ่งบ้านเรือนที่จะได้รับการเยียวยาเป็นลำดับแรกต้องเป็นที่ดินในที่ของเอกชน ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่อยู่ในเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ และเขตหวงห้าม รวมถึงไม่อยู่ในพื้นที่บุกรุก หรือสร้างรุกล้ำลำน้ำ กรณีตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงกลยุทธ์ โดยใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กันไป สำหรับบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง 272 หลัง รัฐบาลได้มีแนวคิดในการนำแบบแปลนบ้านของกรมโยธาธิการและผังเมืองมาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ วงเงินงบประมาณ และความจำเป็นในการใช้งาน ขณะที่บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายบางส่วน 9,577 หลัง แยกเป็น เสียหายเล็กน้อย (โครงสร้างเสียหายต่ำกว่าร้อยละ 30) เสียหายมาก (โครงสร้างเสียหายร้อยละ 30 - 70) ให้พิจารณาว่าจะซ่อมแซมตามสภาพเดิมหรือเสริมโครงสร้างใหม่ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ทั้งนี้ การซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้ดำเนินการภายใต้การมีส่วนร่วมของหน่วยทหาร ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักประกอบกำลังสนับสนุนกับอาชีวศึกษา เครือข่ายช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเจ้าของบ้านต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและซ่อมแซมบ้าน สำหรับด้านสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้า ประปา ถนน ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากไม่มีงบประมาณน้ำท่วมเพียงพอ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดสรรงบประมาณจากวงเงินทดรองราชการ เพื่อซ่อมแซมให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว รวมถึงพิจารณาข้อมูลในภาพรวม เพื่อนำเสนอแผนงานและงบประมาณในการแก้ไขปัญหาระยะยาว อาทิ การทำท่อลอดการยกระดับพื้นผิวจราจร สำหรับเป็นข้อมูลเชิงนโยบายในการลดผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ด้านการเกษตร อาทิ พืชไร่ พืชสวน ประมง ปศุสัตว์ ให้จ่ายเงินเยียวยาแก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด หากพื้นที่การเกษตรเสียหายโดยสิ้นเชิงและต้องใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ส่งเสริมการจ้างงานระยะสั้น สร้างอาชีพและรายได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้มีรายได้ในช่วงที่ไม่มีผลผลิตทางการเกษตร ส่วนด้านชลประทานที่เป็นการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งระบบ ให้เชื่อมโยงแผนงานการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่รอยต่อของจังหวัด ด้านการแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือ โดยเฉพาะข้าวสารของกระทรวงพาณิชย์ ให้จังหวัดกำหนดจุดจัดเก็บและพื้นที่เป้าหมายในการแจกจ่ายข้าวสารให้ชัดเจนและทั่วถึง เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือครอบคลุมทุกพื้นที่