กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ยะลา พัทลุง สงขลา และปัตตานี รวม 35 อำเภอ 200 ตำบล 1,113 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 108,847 ครัวเรือน 368,053 คน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 24 – 25 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างปภ.จึงได้ประสานแจ้งเตือน 10 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ฝนที่ตกหนัก
ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 24 มกราคม 2560 ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 127 อำเภอ 831 ตำบล 6,286 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 584,643ครัวเรือน 1,800,416 คน ผู้เสียชีวิต 85 ราย ผู้สูญหาย 5 ราย ถนน 4,314 จุด คอสะพาน 348 แห่ง ท่อระบายน้ำ 270 แห่ง ฝาย 126 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง สถานที่ราชการเสียหาย 25 แห่ง โรงเรียน 2,336 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ยะลา พัทลุง สงขลา และปัตตานี รวม 35 อำเภอ 200 ตำบล 1,113 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 108,847 ครัวเรือน 368,053 คน โดยนครศรีธรรมราช มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร และอำเภอเชียรใหญ่ รวม 38 ตำบล 337 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 49,731 ครัวเรือน 167,963 คน อพยพ 181 ครัวเรือน 728 คน ผู้เสียชีวิต 26 ราย สุราษฎร์ธานี มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพุนพิน และอำเภอบ้านนาเดิม รวม 8 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,725 ครัวเรือน 5,192 คนประชาชนอพยพ 119 ครัวเรือน 366 คน ผู้เสียชีวิต 15 ราย นราธิวาส มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาสอำเภอตากใบ อำเภอบาเจาะ อำเภอยี่งอ อำเภอระแงะ อำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาคร อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงโก – ลก อำเภอสุไหงปาดีอำเภอจะแนะ และอำเภอเจาะไอร้อง รวม 66 ตำบล 408 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,212 ครัวเรือน 111,691 คน ประชาชนอพยพ169 ครัวเรือน 671 คน ยะลา มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน และอำเภอยะหา รวม 25 ตำบล 118 หมู่บ้าน 2 ชุมชนประชาชนได้รับผลกระทบ 3,399 ครัวเรือน 14,337 คน อพยพ 20 ครัวเรือน 80 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย พัทลุง มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสน และอำเภอเมืองพัทลุง รวม 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,691ครัวเรือน 13,641 คน ผู้เสียชีวิต 12 ราย สงขลา มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอระโนด และอำเภอสะบ้าย้อย รวม 12 ตำบล 37 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,432 ครัวเรือน 39,332 คน ผู้เสียชีวิต 8 ราย ปัตตานี มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอมายอ อำเภอแม่ลาน อำเภอปะนาแระ อำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น และอำเภอโคกโพธิ์ รวม 44 ตำบล 175 หมู่บ้าน 6 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,657 ครัวเรือน 15,897 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิตและทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 24 – 25 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่าง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานแจ้งเตือน 10 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ววัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th