กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--มีเดีย พลัส คอนเนคชั่น
ชูจุดเด่นเป็นศูนย์แพทย์ครบวงจร ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการรักษา พร้อมเดินหน้าแคมเปญตอบแทนสังคมในโอกาสครบรอบ 30 ปี รณรงค์ให้คนไทยดูแลสุขภาพเพื่อสร้างสังคมสุขภาพดี
โรงพยาบาลพญาไท ประกาศเดินหน้าพัฒนาโรงพยาบาลเพื่อก้าวสู่การเป็น Phyathai 2 Center of Excellence ทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาทเสริมศักยภาพด้านบริการ และศูนย์การแพทย์ครบวงจร จัดตั้ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการวิชาการ พร้อมเร่งเดินหน้าขอรับรองความเชี่ยวชาญรายโรค CCPC มาตรฐานการบริการการแพทย์ระดับสากล เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย
นพ.อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวถึง ทิศทางการบริหาร ธุรกิจ และแผนการขยายการบริการในปี 2560 นี้ของโรงพยาบาลพญาไท 2 ว่า เป้าหมายระยะยาวของเราคือ ไม่อยากให้ใครป่วยมาโรงพยาบาล ซึ่งเกิดจากการน้อมนำพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ว่า 'ถ้าคนเรามีสุขภาพเสื่อมโทรม ก็จะไม่สามารถพัฒนาชาติได้ เพราะทรัพยากรที่สำคัญของประเทศชาติ ก็คือพลเมืองนั่นเอง' นำความเชี่ยวชาญ และความพร้อมทางการแพทย์ ยึดเป็นแนวปฏิบัติในการให้บริการและช่วยเหลือสังคมให้มีสุขภาพดี
"เราเน้นพัฒนาโรงพยาบาล เพื่อก้าวสู่การเป็น Phyathai 2 Center of Excellence โดยลงทุน ด้านการปรับปรุงสถานที่ เสริมศักยภาพศูนย์การแพทย์ ด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีการแพทย์ เป็นจำนวน เงินกว่า 600 ล้านบาท ภายใต้การดำเนินงานดังนี้ คือการพัฒนาโปรแกรมด้านการรักษา (Clinical Program) เพื่อเป็นศูนย์การแพทย์ที่เป็นเลิศครบวงจร อาทิ ศูนย์อุบัติเหตุ ศูนย์ต่ออวัยวะ ศูนย์เปลี่ยนไต/ตับ ศูนย์รักษาหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ศูนย์รักษาอาการปวดโดยไม่ต้องผ่าตัด ศูนย์รักษาบาดแผลเรื้อรัง ศูนย์การรักษาโรคความจำเสื่อม เป็นต้น พร้อมด้วยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี นวัตกรรม สามารถติดตามผลได้โดยไม่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่อื่น เดินหน้าขอรับรองความเชี่ยวชาญรายโรค หรือ CCPC เพิ่มด้านการรักษาโรคทางด้านนรีเวชและมาตรฐานการรักษาของศูนย์สุขภาพเด็กรวมถึงสนับสนุนงานวิจัยพัฒนาด้านวิชาการแพทย์และสหสาขาวิชาชีพ พร้อมร่วมมือกับสถาบันและโรงเรียนแพทย์เพื่อพัฒนางานวิจัยในกลุ่มผู้ป่วยความจำเสื่อม" ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าว
ในปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลพญาไท 2 สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาการวิชาการ โรงพยาบาลพญาไท 2 โดยนำความรู้ไปพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการคิดวิเคราะห์งานด้านการวิจัย และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย พร้อมความพึงพอใจของผู้รับบริการ เช่น งานวิจัยเรื่อง พิชิตโรคอ้วนด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง หรือ เรื่องการพัฒนานวัตกรรม ผ้าอุ้มพยุงผู้ป่วยเพื่อความปลอดภัย เป็นต้น และได้รับการรับรองความเชี่ยวชาญรายโรค CCPC ด้านโรคหลอดเลือดสมองตีบอุดตันเฉียบพลัน และด้านการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ภายใต้การรับรองมาตรฐานระดับสากล JCI อีกด้วย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 2 ยังกล่าวต่อถึงตัวเลขผลประกอบการในปี พ.ศ. 2559 ของโรงพยาบาลพญาไท 2 อยู่ที่ประมาณ 3,700 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% โดยตั้งเป้ารายได้ในปี พ.ศ. 2560 นี้ ให้ได้กว่า 4,100 ล้านบาท ขณะที่จำนวนผู้ป่วยนอก ในปี พ.ศ.2559 มีผู้มาเข้ารับบริการ 680,000 ราย ตั้งเป้าปี พ.ศ.2560 ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 690,000 คน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 รายต่อปี ขณะที่จำนวนผู้ป่วยใน ในปี พ.ศ. 2559 มีผู้มาเข้ารับบริการ 20,600 ราย ตั้งเป้าปี พ.ศ. 2560 ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 21,600 คน หรือเพิ่มขึ้น 5%โดยมีจำนวนแพทย์รองรับการให้บริการจำนวนกว่า 600 คน
นอกจากนี้ในส่วนของบทบาทหน้าที่ในการรับผิดชอบต่อสังคม นพ.อนันตศักดิ์ กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้นำเอาความเชี่ยวชาญมาตอบแทนสังคม ภายใต้ "มูลนิธิ One Love โครงการหนึ่งน้ำใจเพื่อผู้ป่วยผู้ยากไร้" โดยทางโรงพยาบาลฯ จะหักจากค่าบริการผู้ป่วยนอก 10 บาทต่อใบเสร็จ และผู้ป่วยใน 200 บาทต่อใบเสร็จ เข้ามูลนิธิ One Love ซึ่งมีโครงการดี ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 - 2560 อาทิ โครงการการกุศล "ร้อยภาพวาด ร้อยดวงใจ ร้อยพลังใจช่วยเด็กผู้ยากไร้ ๒๕๕๙" โอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 84 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559 โครงการผ่าตัดข้อเข่าข้อสะโพกเพื่อพระภิกษุและนักบวชในศาสนาต่างๆ ร่วมกับมูลนิธิ แผ่นดินธรรม วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เป็นต้น
และในโอกาสครบรอบ 30 ปี โรงพยาบาลพญาไท 2 ในปีนี้ โรงพยาบาลฯ มีแผนตอบแทนสังคม ด้วยการรณรงค์ให้สังคมมีสุขภาพดี ร่วมการแบ่งปันต่อผู้ด้อยโอกาส ตามเป้าหมายระยะยาว นั่นคือ "ไม่อยากให้ใครป่วย มาโรงพยาบาล" โดยจะทำเป็นแคมเปญให้ความรู้เรื่องสุขภาพ ทั้งการป้องกันและการรักษาตลอดทั้งปี ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายการเป็นผู้ให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ของโรงพยาบาลฯ ในหัวข้อที่น่าสนใจและง่ายต่อการนำไปปฏิบัติตาม อาทิ "30" health tips for healthy life 30 วิธีเปลี่ยนตัวเองให้ไกลโรค "30" โรคต้อง"พลาด" เป็น และ"30"good things to do for community 30 สิ่งดี ๆ ที่คุณทำได้สู่สังคม เป็นต้น
"ภารกิจที่ โรงพยาบาลจะต้องทำให้ดีที่สุด คือ การรักษาผู้ป่วยให้หายเจ็บป่วย และออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ด้วยบริการของโรงพยาบาลที่ดีเยี่ยมสร้างความอุ่นใจ วางใจในประสิทธิภาพการรักษาให้กับผู้ป่วย ในขณะเดียวกันก็ต้องมีหน้าที่สร้างสังคมสุขภาพดี ทั้งการให้ความรู้ด้านการแพทย์ การรักษา และการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคที่ถูกต้องเชื่อถือได้แก่สังคม" นพ.อนันตศักดิ์ สรุป