กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--เอ็กซ์ตราวาแกนซ่า พีอาร์
ท่วงทำนองจากหัวใจ เยาวชนโยธวาทิตไทยกว่า 3,000 คน สร้างประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ บรรเลงเพลงถวาย"องค์อัครศิลปิน"รัชกาลที่ 9 ในงาน"มหกรรมร้อยดวงใจโยธวาทิตไทย"
ไม่มีสิ่งใดสื่อแทนใจคนรักดนตรี เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ "องค์อัครศิลปิน" รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีต่อโยธวาทิตไทยได้ดีเท่ากับการบรรเลงเพลงที่ออกมาอย่างสุดหัวใจและความสามารถ ซึ่งเยาวชน โยธวาทิตไทยกว่า 3,000 คนได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ ผ่านกิจกรรมในงาน"มหกรรมร้อยดวงใจ โยธวาทิตไทย น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งงานนี้จัดขึ้นโดยกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใต้โครงการส่งเสริมกิจกรรมดนตรีเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยได้รับเกียรติจาก นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงาน พร้อมด้วย นายนเร เหล่าวิชยา อธิบดีกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้การต้อนรับ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็น"เอกกษัตริย์นักดนตรี"ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อโยธวาทิตไทยมานานนับกว่า 3 ทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากร ผ่านการพระราชทานถ้วยรางวัลการประกวดวงโยธวาทิตที่กรมพลศึกษาจัดขึ้น ตลอด 35 ปี ที่ผ่านมา นับจากเริ่มมีการประกวดครั้งแรกในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติเมื่อปี 2524
การจัดงาน "มหกรรมร้อยดวงใจโยธวาทิตไทย"ผ่านพ้นไปอย่างยิ่งใหญ่ตราตรึงใจ โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญของการรวมพลังเยาวชนโยธวาทิตไทยกว่า 3,000 คน สร้างประวัติศาสตร์ ร่วมบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้อง พร้อมการแปรอักษรเป็นรูปแซกโซโฟน โดยนักแสดงมากกว่า 1,000 คน
นอกจากนี้ ยังมีการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์โดยวงดุริยางค์เครื่องลมกรมพลศึกษา หรือ DPE. Winds ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก โดยทำการคัดเลือกเยาวชนนักดุริยางค์ยอดฝีมือจากทั่วประเทศจำนวน 89 คน ผ่านการฝึกซ้อมโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ได้แก่ ดร.นิพัทธ์ กาญจนะหุต หัวหน้าภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอาจารย์วานิช โปตะวนิช นักดนตรี และวาทยกร เจ้าของรางวัลรางวัลศิลปินศิลปาธร
บรรดาตัวแทนเยาวชนนักดุริยางค์ DPE. Winds ต่างบอกเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชาวโยธวาทิตที่ได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้ เร่มกันที่ พีรวิชญ์ ศิริชัยเจริญ หรือ จ้า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กล่าวว่า การได้รับเกียรติร่วมบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในครั้งนี้ ทำให้รู้สึกชื่นชมในพระปรีชาสามารถทางด้านดนตรีที่พระองค์ทรงเป็นทั้งนักดนตรีและนักประพันธ์ กิจกรรมครั้งนี้ยังทำให้มีโอกาสเข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมภายใต้การดูแลควบคุมวงโดยอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถระดับประเทศ ทำให้รับคำแนะนำทั้งในด้านเทคนิค พร้อมทั้งเพิ่มพูนทักษะต่างๆในการเล่นดนตรียิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับ นัฐพงษ์ คำวิชิต หรือ กาย นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มือ Percussion ของ DPE. Winds บอกว่า รู้สึกโชคดีที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม เพราะทำให้ได้รับทั้งความรู้ที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะความสามารถ อีกทั้งยังมีอาจารย์จากกรมพลศึกษา คอยให้คำแนะนำ เทคนิคดีๆ รวมถึงการนันทนาการ สร้างพฤติกรรมการอยู่ร่วมกัน โดยเฉพาะวิธีในการรวมทัศนคติของวงให้สามารถทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันได้ดีขึ้น
สำหรับ "มหกรรมร้อยดวงใจโยธวาทิตไทย น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ครั้งนี้ นัฐพงษ์ บอกว่า ต้องยกให้เป็นกิจกรรมครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งน่าจะถือเป็นการบันทึกเหตุการณ์ที่สำคัญของเหล่าชาวโยธวาทิตเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะได้มีโอกาสได้เข้าร่วม เขาจึงมีความตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุดอย่างสุดความสามารถเพื่อพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ถือเป็นครั้งสำคัญในชีวิตที่จะได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในฐานะพสกนิกรชาวไทย
"บทเพลงพระราชนิพนธ์เป็นบทเพลงอันทรงคุณค่าที่แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะฉะนั้นพวกเราในฐานะเยาวชนไทย ไม่ควรปล่อยให้เพลงเหล่านี้เลือนหายไปจากความทรงจำ จงช่วยนำเพลงกลับมาเล่นให้มากขึ้น นำกลับมาทำให้คนได้ยินมากขึ้น ปลุกใจให้สำนึกรักและหวงแหนเพลงพระราชนิพนธ์เหล่านี้ เพื่อการสืบสานให้อยู่กับวงการเพลงไทยต่อไป" นัฐพงษ์ ฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่
ปิดท้ายที่ ศรสวรรค์ หอมวิเศษวงศา หรือ แพร นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ตลอด 10 วันที่ได้เข้าค่ายฝึกซ้อมดนตรีทำให้ได้รับความรู้จากอาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ และวาทยากรระดับประเทศคอยให้คำแนะนำ ส่งเสริม และสร้างเทคนิคในการเล่นดนตรีให้เกิดทักษะ และความมั่นใจมากขึ้น เรียกได้ว่าได้ความรู้อย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานเจาะลึกจนถึงเทคนิคพิเศษที่สามารถนำไปประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งอยากให้มีการสนับสนุนให้มีกิจกรรมดีๆแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเปิดโอกาสให้กับเยาวชนที่มีใจรักดนตรีรุ่นต่อ ๆ ไป
ในฐานะ DPE. Winds รุ่นที่ 1 ที่ได้ร่วมบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในกิจกรรมรวมใจชาวโยธวาทิตครั้งประวัติศาสตร์ ศรสวรรค์ บอกว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับคัดเลือกมาเข้าร่วมกิจกรรม การเก็บตัวทำกิจกรรมร่วมกันในค่าย ทำให้พบมิตรภาพดี ๆ ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน โดยที่เราสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไม่มีการแบ่งแยก แม้จะมาจากต่างสถาบัน เพราะดนตรีทำให้เรามีใจรักในสิ่งเดียวกัน สมดั่งชื่องาน "มหกรรมร้อยดวงใจโยธวาทิตไทย น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช"
แม้การแสดงประวัติศาสตร์ชุดนี้จะปิดฉากลงไปแล้ว แต่เชื่อว่าทุกบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะยังคงดังกึกก้อง และประทับอยู่ในหัวใจของชาวโยธวาทิตและพสกนิกรชาวไทยไปอีกตราบนานเท่านาน โดยสามารถร่วมสัมผัสความประทับใจผ่านทางเทปบันทึกภาพ ได้ในอังคารที 31 มกราคม ศกนี้ เวลา 20.20 น. เป็นต้นไป ทาง ททบ. 5