กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
แคนนอนเตรียมฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระบบ EOS ซึ่งได้แก่ผลิตภัณฑ์กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ และอุปกรณ์เสริม เช่น เลนส์ EF หลากหลายรุ่น ในเดือนมีนาคมนี้
ระบบ EOS ของแคนนอน ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2530 พร้อมกับการเปิดตัวกล้อง single-lens reflex (SLR) รุ่น EOS 650 และเลนส์ EF 3 รุ่น ได้แก่ EF35-70mm f/3.5-4.5, EF35-105 f/3.5-4.5 และ EF50mm f/1.8 โดย EOS นั้นย่อมาจากคำว่า Electro Optical System ซึ่งคำว่า EOS ยังพ้องกับนามของเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณในตำนานเทพกรีกอีกด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ EOS โดดเด่นมากในปีที่ออกสู่ตลาด เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ระบบเมาท์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในกล้องถ่ายภาพเป็นครั้งแรกในโลก จึงกล่าวได้ว่าระบบ EOS ของแคนนอนเป็นผู้บุกเบิกกล้องระบบ AF single-lens reflex นั่นเอง
การที่แคนนอนเป็นผู้พัฒนาส่วนประกอบหลักของกล้องดิจิตอลในตระกูล EOS เอง เช่น เซ็นเซอร์ CMOS หน่วยประมวลผลภาพ และเลนส์ที่ถอดเปลี่ยนได้ นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ควบคู่กับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นของแต่ละผลิตภัณฑ์ จนกระทั่งในเดือน กันยายน พ.ศ. 2546 แคนนอนจึงเปิดตัวกล้อง DSLR ระดับเริ่มต้นรุ่นแรกคือ EOS 300D (ชื่ออื่นๆ ได้แก่ EOS Kiss Digital และ EOS Digital Rebel) นับเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของกล้องดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ
กล้องแคนนอน EOS 300D ได้รับการยกย่องอย่างมากว่ามีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และราคาเหมาะสม ทำให้แคนนอนคว้าส่วนแบ่งตลาดได้เป็นอันดับ 1 และกลายเป็นเจ้าตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ตั้งแต่ปีนั้นต่อเนื่องมาจนถึง 13 ปีให้หลังคือปี พ.ศ. 2558 และด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากผู้ใช้ กล้องในตระกูล EOS จึงมียอดการผลิตรวมสูงถึง 80 ล้านตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 และเลนส์ EF มียอดการผลิตรวมสูงกว่า 120 ล้านชิ้นเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559
นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี พ.ศ. 2530 แคนนอนมุ่งมั่นที่จะทำให้ระบบ EOS ช่วยทลายข้อจำกัดต่างๆ ในการถ่ายภาพด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดระบบ EOS อย่างไม่หยุดยั้ง ในปี พ.ศ. 2551 แคนนอนได้เปิดตัวกล้อง EOS 5D Mark II กล้อง DSLR รุ่นแรกของโลกที่มีฟังก์ชั่นถ่ายวิดีโอแบบ Full HD ช่วยส่งเสริมการใช้กล้อง DSLR ในการถ่ายวิดีโออย่างแพร่หลาย และต่อมาในปี พ.ศ. 2555 เทคโนโลยีการถ่ายวิดีโอดังกล่าวได้รับพัฒนาในเชิงธุรกิจจนกลายเป็น Cinema EOS สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูด ปัจจุบันนี้ระบบ EOS ประกอบด้วยกล้องคอมแพค กล้องถ่ายภาพยนตร์ดิจิตอล และกล้องฟิล์ม รวม 24 รุ่น และเลนส์ EF 97 รุ่น ซึ่งตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของผู้ใช้งานทุกระดับได้อย่างครอบคลุม และครองใจผู้ใช้กล้องทั่วโลก การันตีด้วยความสำเร็จด้านจำนวนยอดขายที่ครองอันดับ 1 ทั่วโลกยาวนานต่อเนื่องถึง 13 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ 2546 – 2558 และในประเทศไทย ที่ครองอันดับยอดขายสูงสุดอันดับ 1 นานติดต่อกันถึง 9 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ 2551 – 2559
แคนนอนยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีด้านภาพอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง วิดีโอ และการเชื่อมต่อเครือข่าย เพื่อสร้างสรรค์ระบบ EOS ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งาน และสนับสนุนวัฒนธรรมการถ่ายภาพไปสู่คนทั่วโลก นอกจากนี้จะสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ ในการถ่ายทอดมิติความลึกซึ้งและความสมจริงผ่านภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การถ่ายภาพอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกล้องและการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในปัจจุบัน ว่าในประเทศไทยแคนนอนมีส่วนแบ่งการตลาดมากเป็นอันดับ 1 มาต่อเนื่องยาวนานถึง 9 ปี (ข้อมูลจาก GFK)