กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
"บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง" แต่งตั้ง "แอพเพิล เวลธ์" และ "เอเชีย เวลท์" เป็นอันเดอร์ไรท์เตอร์คู่ เคาะราคา 4.20 บาท ขายไอพีโอ 140 ล้านหุ้น ระดมทุนชำระเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จองซื้อ 7-9 ก.พ. คาดเทรดเอ็ม เอ ไอ 15 ก.พ.นี้
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ETE ผู้ให้บริการ บริหารจัดการบุคลากร และระบบงานธุรกิจ ในรูปแบบ Outsourcing บริการงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และระบบโทรคมนาคม รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยว่า ETE ได้ลงนามสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น (อันเดอร์ไรท์เตอร์) ร่วมกัน พร้อมด้วยบริษัทผู้ร่วมจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 3 แห่งอันประกอบไปด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ "ETE"
โดยมีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ ETE จำนวน140 ล้านหุ้น อยู่ที่ราคาหุ้นละ 4.20 บาท ราคาดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโต และด้วยองค์ประกอบของบริษัทฯที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ให้บริการ บริหารจัดการบุคลากร และระบบงานธุรกิจ ในรูปแบบ Outsourcing และบริการงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และระบบโทรคมนาคมมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี รวมถึงการขยายเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยทั้ง 3 ธุรกิจถือว่าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโตได้อย่างมีศักยภาพในอนาคต ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้ ETE มีแผนที่จะใช้เงินเพื่อชำระเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มขีดความสามารถให้กับ ETE ในการขยายโอกาสในการรับงานของทั้ง 3 ธุรกิจได้หลากหลาย และมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
"ETE ถือว่าเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่มีความน่าสนใจ เพราะอยู่ในกลุ่มธุรกิจบริการบริหารจัดการบุคลากร และระบบงานธุรกิจ ในรูปแบบ Outsourcing และการให้บริการงานวิศวกรรม มากว่า 20 ปี มีกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชนที่ใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึง ETE เพิ่งขยายเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีรายได้ที่แน่นอนตลอดระยะเวลา 25 ปี และที่สำคัญทีมงานผู้บริหารเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ และมีวิสัยทัศน์ รวมถึงมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ตามการขยายตัวของตลาดในอนาคต" นายวรชาติกล่าว
นายโชษิต เดชวนิชยนุมัติ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ1 บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น ETE กล่าวว่า หุ้นไอพีโอของ ETE จะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2560 และคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (m a i) ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งแอพเพิล เวลธ์มีความมั่นใจว่า ETE จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากในช่วงการนำเสนอข้อมูลบริษัทให้แก่นักลงทุน หรือ โรดโชว์ 6 จังหวัดที่ผ่านมา ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา สงขลา สุราษฏร์ธานี และกรุงเทพมหานคร ได้รับการตอบรับที่ดี
"การโรดโชว์ทั้ง 6 จังหวัด ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ และศักยภาพการเติบโตของบริษัทที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะธุรกิจบริการบริหารจัดการ ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำในการให้บริการในรูปแบบ Outsourcing นอกจากนี้ ETE ได้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งจะมีรายได้ในลักษณะประจำ (Recurring Income) ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าETE จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จะมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน " นายโชษิตกล่าว
นายชยันต์ อัคราทิตย์ กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ผู้จัดการร่วมในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น ETE กล่าวว่า ETE เป็นหุ้นที่มีความโดดเด่นด้วยลักษณะการประกอบธุรกิจที่มีความหลากหลาย มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารจัดการ ธุรกิจบริการงานวิศวกรรมในธุรกิจนี้มานานเกือบ 20 ปี รวมถึงได้มีการขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะหนุนให้บริษัทเติบโตไปอีกก้าวหนึ่งในอนาคต
ทั้งนี้จากการนำเสนอข้อมูลหลักทรัพย์ หรือ โรดโชว์ให้กับนักลงทุน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดนั้น นับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เราจึงมีความเชื่อมั่นว่าหุ้น ETE จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ช่วยสร้างความคึกคักในตลาด MAI
"ETE เป็นบริษัทที่มีความโดดเด่นและเชี่ยวชาญในธุรกิจบริการบริหารจัดการ ธุรกิจบริการงานวิศวกรรม ตลอดจนธุรกิจพลังงานทดแทน จากปัจจัยพื้นฐานธุรกิจของบริษัทที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้บริหารและทีมงานมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่จะนำพาธุรกิจของบริษัทให้เติบโตต่อไปได้ในอนาคต" นายชยันต์กล่าว
นายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือETE กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจหลักๆใน 3 ลักษณะประกอบไปด้วย 1.ธุรกิจให้บริการบริหารจัดการ (Management Service หรือ MS) แบ่งเป็นงานบริหารจัดการบุคลากร (Manpower Management หรือ MM) และงานบริหารจัดการระบบงานธุรกิจ (Business Process Outsourcing หรือ BPO) และงานบริหารจัดการรถเช่าพร้อมพนักงานขับรถ (Car Rental management หรือ CM) 2.ธุรกิจให้บริการงานวิศวกรรม (Engineering Service หรือ EN) ประกอบด้วยงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า (Electrical Power Engineering System หรือ EE) และงานวิศวกรรมระบบโทรคมนาคม (Telecommunication Engineering System หรือ TL) และ 3.ธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy หรือ SE) โดยมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 16.47 เมกะวัตต์ ได้แก่ 1.สหกรณ์การเกษตรเมืองตราด จำกัด อ.เมือง จ.ตราด กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 2.สหกรณ์การเกษตรวัฒนานคร จำกัด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 3.สหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อย จำกัด อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 4.สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ คลองน้ำใส จำกัด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 1.47 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 4 โครงการดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ CODเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 และเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เป็นต้นไป โดยมีอายุของสัญญาซื้อขายไฟ 25 ปี
ทั้งนี้บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) มีบริษัทย่อยอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท อีทีอี เมเนจเมนท์ จำกัด หรือ ETEM มีทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจบริการบริหารจัดการ และธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.27 และบริษัท ไทย สปีดี้ เมเนจเมนท์ จำกัด หรือ TSDMมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการรถเช่าพร้อมพนักงานขับนรถ
"การระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ ETE มีศักยภาพทางธุรกิจที่สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงขยายโอกาสในการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต ซึ่งเราหวังว่า ETE จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยทีมผู้บริหารมีความมุ่งมั่นที่จะมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง และสร้างการเติบโตให้กับ ETE อย่างมั่นคง และยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต" นายไรวินท์กล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทฯมีรายได้รวมทั้งหมด 1,143.19 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18.78 ล้านบาท และผลประกอบการในปี 2558 บริษัทฯมีรายได้รวมทั้งหมด 1,594.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.64 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ 9 เดือนประจำปี 2559 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทฯมีรายได้รวมทั้งหมด 1,061.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.36 ล้านบาท