กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--syllable
สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทยไปยังประเทศเยอรมนี โดยระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2559 มีมูลค่าการส่งออกถึง 556.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดเยอรมันจึงนับเป็นตลาดที่น่าสนใจยิ่งที่ผู้ประกอบการเครื่องประดับและอัญมณีต้องจับตาต่อไปในปีนี้
สำหรับผู้ผลิต ผู้ส่งออก และดีไซเนอร์ในวงการจิวเวรีที่ไม่อยากตกเทรนด์ ต้องไม่พลาดที่จะมาอัพเดทเทรนด์และแนวโน้มตลาดโลก ได้ที่ Bangkok Gems & Jewelry Fair หรือ BGJF งานบางกอกเจมส์นอกจากจะได้รับการยอมรับในฐานะงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอันดับ 5 ของโลกแล้ว BGJF ยังเป็นเวทีนำเสนอเทรนด์อัญมณีและเครื่องประดับระดับโลก โดยงานบางกอกเจมส์ฯ ครั้งที่ 59 กำลังจะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 22-26 กุมภาพันธ์นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
กลุ่มผู้ซื้อเครื่องประดับและอัญมณีในประเทศเยอรมนีมีหลากหลายกลุ่ม โดยกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการเฉพาะ หรือ Niche Markets เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนวัยทำงาน กลุ่มผู้รักสัตว์เลี้ยง ฯลฯ นับเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง ล่าสุดนิตยสาร Goldschmiede Zeitung ของเยอรมัน ได้ออกมาชี้ช่องทางเกี่ยวกับเทรนด์หรือ
แนวโน้มเครื่องประดับและอัญมณีในเยอรมนีในปี 2560 เป็นโอกาสที่ผู้ผลิตที่สนใจจะได้ออกแบบผลิตสินค้าให้โดนใจคนเยอรมันแนวโน้มแรกที่น่าสนใจ คือสินค้าเครื่องประดับเพชรสำหรับเจนวาย (Gen Y) โดยบริษัท Brain & Co. บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนชื่อดังของเยอรมนีได้ทำวิจัยและมีรายงานสรุปออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ในปีที่ผ่านมาธุรกิจเครื่องประดับเพชรมีการเติบโตทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และยังมีแนวโน้มเติมโตขึ้นได้อีกหากผู้ประกอบการเน้นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มคนเจนวาย
คนเจนวาย คือผู้ที่เกิดช่วงปี ค.ศ. 1980-1999 หรือกลุ่มคนหนุ่มสาวในวัยทำงาน ซึ่งมีความพร้อมในการจับจ่ายใช้สอยสินค้าหรูหรา คนกลุ่มนี้ต้องการเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และต้องเป็นของแท้ มีความเรียบหรู ดูดี ดังนั้น "เพชร" จึงตอบโจทย์ผู้ซื้อกลุ่มนี้เป็นที่สุด นอกจากนี้ กระบวนการผลิตและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรและใส่ใจกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม จะสามารถครองใจคนกลุ่มนี้ได้ไม่ยากแนวโน้มถัดมาในปีนี้ยังคงเป็นเรื่องความเป็นธรรมชาติ เครื่องประดับที่ออกแบบและได้แรงบันดาลใจจากความเป็นธรรมชาติจะสอดรับกับความต้องการและการโหยหาธรรมชาติสำหรับผู้คนในยุคปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง คนกลุ่มนี้มองหาความสงบและดีต่อชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคผลิตภัณฑ์อินทรีย์ การทำกิจกรรม Wellness ต่างๆ หรือเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ
จึงไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดล่าสุดแบรนด์ Swarovski จึงเปิดตัวเครื่องประดับคอลเลคชั่น ดิน น้ำ ลม ไฟ และแบรนด์อื่นๆ อีกหลายแบรนด์ได้พร้อมใจกันออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ ดอกไม้ หรือแมลง
อีกเทรนด์ที่น่าจับตาสำหรับปีนี้ คือเทรนด์ "สีชมพู" ซึ่งมาแรงทั้งในสินค้าเสื้อผ้า แฟชั่นและ เครื่องประดับ เห็นได้จากทัพคอลเลคชั่นเสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Michael Kors หรือ Jason Wu รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ที่ใช้สีชมพูหลากโทน อาทิ ชมพูกลีบดอกไม้ ชมพูฟิวเซีย ชมพูบับเบิ้ลกัม ฯลฯ และล่าสุดบริษัท PANTONE บริษัทสียักษ์ใหญ่ก็ได้ประกาศ 10 สีประจำฤดูใบไม้ผลิปีนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยในรันเวย์นิวยอร์กแฟชั่นวีค ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่สี Pale Dogwood ซึ่งเป็นเฉดสีชมพูอ่อน เฉด Pale Dogwood ให้ความรู้สึกสงบ มีความไร้เดียงสา บริสุทธิ์ และยังเป็นสีที่ทำให้รู้สึกถึงสุขภาพผิวที่ดีอีกด้วย สีชมพูจึงเป็นเทรนด์สีเครื่องประดับปีนี้เช่นกัน รวมทั้งสีอื่นๆ ที่สอดรับกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเฉดสีชมพู
ส่วนเทคนิคการเคลือบเงาสีหรือ Enamel ในกระบวนการผลิตเครื่องประดับได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และจะกลายเป็นอีกเทรนด์ที่น่าจับตาในปีนี้ โดยสีที่จะมาพร้อมเทคนิคการผลิตนี้ได้แก่โทนสีเข้ม โดยบริษัท PANTONE ได้แนะนำสี Niagara หรือสีน้ำเงินเดนิม ซึ่งเป็นสีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายดั่งสายน้ำ การนำเอาเทคนิคโบราณอย่างการเคลือบเงาสีมาใช้อีกครั้งทำให้นึกย้อนถึงความเฟื่องฟูยุคเรอเนสซองส์
เทรนด์สุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเครื่องประดับสำหรับคุณผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์เฮลท์ตี้ ชื่นชอบการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ เครื่องประดับกุล่มนี้ต้องสวมใส่สบาย ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงมีฟังก์ชันในการเก็บข้อมูลหรือใช้งานได้เทียบเท่าสมาร์ทโฟน อาจเป็นนาฬิกาข้อมือสแตนเลสหน้าปัดดิจิตอล หรือนาฬิกาข้อมือที่มีแอพพลิเคชั่นในการออกกำลังกาย
เรียกได้ว่าปี 2560 จะเป็นอีกโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่จะหันมาจับกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ ซึ่งมีแนวโน้มสดใสและยังจะเติบโตได้อีกมาก การเตรียมตัวให้พร้อมโดยการออกแบบผลิตสินค้าซึ่งตอบรับตลาดกลุ่มนี้ ตลอดจนการเข้าร่วมจัดแสดงในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติจะเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการเครื่องประดับและอัญมณีในปีนี้ ซึ่งงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสได้พบกับผู้ซื้อรายใหญ่จากทั่วโลก รวมถึงลูกค้าตัวจริงที่จะมาสั่งซื้อสินค้าในงานฯ โดยขณะนี้ยังคงเปิดรับสมัครจองพื้นที่คูหาเป็นช่วงสุดท้ายก่อนงาน ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 26 กุมภาพันธ์ 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี งานนี้ กรมฯ ซึ่งเป็นผู้จัดฝากบอกว่า ยังพอมีพื้นที่ทำเลดีเหลือให้จับจองอยู่บ้าง สิทธิพิเศษนี้ ใครจองก่อนมีสิทธิ์ก่อน
พบผู้ผลิต ผู้ส่งออก และดีไซน์เนอร์ชั้นนำรวมกว่า 2,500 บูท กับทัพสินค้าและผลงานเครื่องประดับและอัญมณีชิ้นเด่น ชิ้นใหม่ล่าสุดของแต่ละแบรนด์ดัง รวมทั้งคอลเลคชั่นที่คุณจะพบในงานนี้เท่านั้น ชมข้อมูเพิ่มเติมได้ที่ www.bkkgems.com อีเมล bkkgems@ditp.go.th หรือโทร. 0 2507 8392-3