กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--การกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล "สุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศ ประจำปี 2559" พร้อมด้วย นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมงานเมื่อวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ณ โรงแรมตวันนา ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ดำเนินการโครงการสุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่ง 5 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว ได้แก่ เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา) เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล) เขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง) เขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด) และเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ (นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี) ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกเส้นทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และมีจุดแข็งที่จะสามารถพัฒนาไปสู่การเป็นสุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศ
รางวัล "สุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศ" จะเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวให้เกิดทางเลือกใหม่แก่นักท่องเที่ยว โดยเป็นการร่วมคิด ร่วมเสนอ ร่วมพัฒนา จากความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน ซึ่งจะส่งผลให้เกิด 1) เส้นทางท่องเที่ยวที่จะจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้น พำนักเพิ่มขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงเกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ชุมชน กระจายตลาดตลอดทั้งปี 2) ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาตั้งแต่การพัฒนายกระดับมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวก คุณภาพของสินค้า การเป็นเจ้าบ้านที่ดี รวมทั้งการส่งเสริมด้านการตลาด และการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และ 3) สร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับสินค้าและบริการของชุมชนในเขตพื้นที่ ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยชุมชนต่อไป
ทางด้าน นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "คณะทำงานพิจารณาคัดเลือกสุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศ ได้พิจารณากลั่นกรองเส้นทางท่องเที่ยว 17 เส้นทางที่แต่ละเขตพัฒนาการท่องเที่ยวนำเสนอ โดยการลงสำรวจพื้นที่เส้นทางการท่องเที่ยวอันเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พบว่าแต่ละเส้นทางมีความสวยงาม โดดเด่น สามารถสร้างรายได้แก่ชุมชน และมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน ซึ่งจากการพิจารณาความเหมาะสม ในมิติต่าง ๆ จึงนำมาสู่การมอบรางวัล "สุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศ" ซึ่งจะเป็นรางวัลที่สามารถพัฒนาไปสู่ความสุดยอดเส้นทางท่องเที่ยว"
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า "ในอนาคตต่อจากนี้ จะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐและภาคเอกชนในลักษณะของประชารัฐ รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ จะสนับสนุนส่งเสริมในด้านนโยบาย กิจกรรมส่งเสริมการตลาด การพัฒนาทางด้านความพร้อมของสาธารณูปโภคและการบริการพื้นฐานที่จำเป็น รวมถึงพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในการบริการในพื้นที่เพื่อยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวให้สูงขึ้น และภาคเอกชนและชุมชนจะเป็นกลไกสำคัญในการเข้ามา ขับเคลื่อนทำให้เส้นทางต่าง ๆ เหล่านี้ ให้มีพัฒนาการทางการตลาดและเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทั้งในการนำเส้นทางการท่องเที่ยวนี้ไปบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการท่องเที่ยว หรือการเป็น ที่ปรึกษาให้คำแนะนำแก่ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวในการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพและความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมี ความยั่งยืน ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่มีภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวที่ ให้ความสนใจสนับสนุนการนำเส้นทางการท่องเที่ยวทั้ง 7 เส้นทางไปบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการท่องเที่ยว ซึ่งการมอบรางวัลในครั้งนี้ จะเป็นการจุดประกายให้กับพื้นที่เกิดกำลังใจในการร่วมกันสร้างสุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวต่อไป อันจะทำให้เขตพัฒนาการท่องเที่ยวมีกระบวนการบริหารจัดการพื้นที่ที่รองรับการท่องเที่ยวและก่อให้เกิดการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน และเกิด "สุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศ" ได้อย่างแท้จริง