กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง
"เงินติดล้อ" โชว์ผลการดำเนินงาน ปี 59 มียอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 24% หรือมูลค่าแตะ 21,000 ล้านบาท มีฐานลูกหนี้เติบโตกว่า 26% นอกจากนี้ยังเปิดเผยแผนการดำเนินงานปี 60 ประกาศจับมือพันธมิตรบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำมากกว่า 15 แห่ง เพื่อส่งมอบประกันวินาศภัยคุ้มค่าคุ้มราคาแก่ลูกค้า มั่นใจปี 60 เบี้ยประกันภัยเติบโตเพิ่มขึ้น 130% พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาไม่น้อยกว่า 50 แห่ง
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด เจ้าของแบรนด์ "เงินติดล้อ" และ "ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ" บริษัทในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2559 บริษัทฯ มียอดสินเชื่อคงค้าง (NEA) มูลค่ารวมทั้งสิ้นแตะ 21,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ (New volume) มากกว่า 15,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 26% โดยสัดส่วนยอดยอดสินเชื่อคงค้างแบ่งออกเป็น สินเชื่อรถบรรทุก เติบโตเพิ่มขึ้น 10% สินเชื่อรถเก๋งและรถกระบะ เติบโตเพิ่มขึ้น 32% และสินเชื่อรถมอเตอร์ไซด์เติบโตเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ในปี 2559 ยังมีฐานลูกหนี้จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 270,000 ราย หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 26% และยังขยายสาขาต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้รวมทั้งสิ้น 481 สาขา นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการบริหารจัดการด้านสาขาที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มียอดขอสินเชื่อเฉลี่ยต่อสาขาอยู่ที่ 50 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และยังสามารถบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ได้เป็นอย่างดี โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 1.38% ต่ำกว่าภาพรวมธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และในส่วนของผลการดำเนินธุรกิจการจำหน่ายประกันวินาศภัยในปีที่ผ่านมา มีเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 439 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 66%
นายปิยะศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 บริษัทฯ ยังคงมุ่งหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีมาตรฐานและเป็นธรรมให้แก่ลูกค้า โดยคาดว่าจะมียอดสินเชื่อคงค้างเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% และยังคงเดินหน้าขยายสาขาในครึ่งปีแรกจำนวนไม่น้อยกว่า 50 แห่ง โดยมีแผนการขยายสาขาในเขตพื้นที่กรุงเทพ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นจะประเมินแผนการขยายสาขาอีกครั้ง เพื่อยกระดับการบริการลูกค้าให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ "เงินติดล้อ" ในฐานะโบรกเกอร์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยที่มีสาขามากที่สุด พร้อมจำหน่ายประกันภัยรถยนต์ (Auto Insurance) ประเภท 1, 2 และ 3 ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) และประกันโรคมะเร็ง (Cancer Insurance) โดยได้ร่วมมือกับบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำมากกว่า 15 แห่ง เพื่อคัดสรรและส่งมอบประกันภัยที่คุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุดให้กับลูกค้า และยังสามารถเลือกผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันได้อีกด้วย ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลประกันภัยได้จากจากพนักงานขายที่มีใบอนุญาตมากกว่า 1,400 คน พร้อมให้บริการลูกค้าที่เงินติดล้อทุกสาขาทั่วประเทศ โดยในปี 2560 ได้วางเป้าหมายเบี้ยประกันภัยมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 130% หรือมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท
นายปิยะศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2559 "เงินติดล้อ" ได้ทำการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ (Rebranding) เพื่อลดความสับสนระหว่างแบรนด์เงินติดล้อกับแบรนด์คู่แข่ง ตอกย้ำจุดยืนขององค์กรที่ต้องการยกระดับมาตรฐานผู้ประกอบการธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในประเทศไทย ภายใต้เจตนารมณ์ "เพื่อส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยความเชื่อมั่นว่าการเข้าถึงบริการทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใส คือสิทธิที่ทุกคนพึงได้รับ" นอกจากนี้ ยังได้ทำการสื่อสารกับลูกค้าและประชาชนผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับ แบรนด์ (Brand engagement) โดยได้จัดทำเฟซบุ๊ก แฟนเพจ "เงินติดล้อ" และยังเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อจำนำทะเบียนรถรายแรกที่เปิดใช้บัญชี ไลน์ Official Account โดยใช้ชื่อ @TIDLOR และ ไลน์ สติ๊กเกอร์ (Line Sticker) เพื่อเป็นช่องทางที่ช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเงินติดล้อได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิด "ชีวิตใหม่" โดยนำเอาความจริงใจในการทำธุรกิจของเงินติดล้อมาถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณาความยาว 3 นาที ถือได้ว่าเป็นการยกระดับภาพยนตร์โฆษณาในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในประเทศไทย ด้วยจำนวนผู้เข้าชมมากกว่า 6.5 ล้านวิว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการสื่อสารและสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์เงินติดล้อกับผู้บริโภค นอกจากนี้ "เงินติดล้อ" ยังคงมุ่งมั่นส่งมอบคุณค่าสู่สังคม โดยที่ผ่านมาได้มอบฟรีกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ให้แก่ลูกค้าผู้ขอสินเชื่อรถจักรยานยนต์ไปแล้วทั้งสิ้นมากกว่า 280,000 ฉบับ และยังคงสานต่อโครงการจัดอบรมให้ความรู้ทางด้านการเงิน (Financial education) ให้กับกลุ่มผู้มีอาชีพค้าขายและกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ "เงินติดล้อ" ยังคงครองความเป็นแบรนด์สินเชื่อจำนำทะเบียนรถอันดับหนึ่งในใจคนไทย