กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--Hipso Pr
จังหวัดสระแก้ว, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว และคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จัดการแสดงแสง สี เสียง "มาฆปูรมีศรีสระแก้ว" และงาน "มาฆบูชาอาเซียน สานสัมพันธไมตรีในมิติพระพุทธศาสนา" จังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย กับ จังหวัดบันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา ประจำปี 2560 ณ ปราสาทสด๊กก๊อกธม อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดสระแก้ว
นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จังหวัดสระแก้ว สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้ร่วมกันจัดงาน "มาฆปูรมีศรีสระแก้ว" และงาน "มาฆบูชาอาเซียน สานสัมพันธไมตรีในมิติพระพุทธศาสนา" ประจำปี 2560 การแสดงแสง สี เสียงซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ปราสาทสด๊กก๊อกธม อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์ทางศิลปะ ประเพณีและวัฒนธรรมของ จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นที่รู้จัก รวมทั้งยังเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาในมิติ ศาสนาและวัฒนธรรมประเพณีด้วย ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ พิธีทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 99 รูป, พิธีถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวิชราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร, การประกวดขบวนแห่ "มาฆปูรมีศรีสระแก้ว", การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน 2 แผ่นดิน (จังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย และจังหวับันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา), ตลาดนัดชุมชนคุณธรรมน้อมนำเศรษฐกิพอเพียง, พิธีเวียนเทียนรอบปราสาทสด๊กก๊อกธม และไฮไลท์ของงาน คือ การแสดง แสง สี เสียง ในชื่อชุดว่า "สด๊กก๊อกธม : คืนฝัน สันติ โลกา บูชามาฆปูรมี" ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือจัดงานนี้เป็นปีที่ 3 ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวสระแก้ว รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย กัมพูชา และชาวต่างชาติเป็นอย่างดี
ผศ.ดร.ระวิวรรณ วรรณวิไชย คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า การแสดงแสง สีเสียงในครั้งนี้ จะจัดแสดง ณ ปราสาทสด๊อกก๊อกธม เพื่อสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ ความศรัทธา โดยเชื่อมร้อยกับวันสำคัญทางพุทธศาสนานั่นคือ ค่ำคืน มาฆบูชา โดยใช้ชุดว่า "สด๊กก๊อกธม : คืนฝัน สันติ โลกา บูชามาฆปูรมี" เพื่อคลี่คลายให้เห็นว่าทำไมความคิด ความเชื่อ ของผู้คนในแถบจังหวัดสระแก้วและชายแดนไทย-กัมพูชาที่เป็นเพื่อนบ้านของไทยถึงมีความเชื่อ ความศรัทธาทางพุทธศาสนาในลักษณะที่ให้ความสำคัญกับการบูชาและเคารพปราสาท ผ่านมุมมองของนักวิชาการชาวต่างชาติที่ชื่อ จอห์น เบอร์เจส ผู้จัดบันทึกเรื่องราวต่างๆ โดยในค่ำคืนมาฆบูชา ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 ชาวบ้านถึงได้ไปเวียนเทียนที่ปราสาทสด๊กก๊อกธม การแสดงแสง สี เสียง ของค่ำคืนนั้นจึงจัดให้มีขึ้นในวันมาฆบูชา ณ ปราสาทสต๊กก๊อกธม อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จะบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้ที่เข้าชมงานได้รับรู้และรับทราบที่มาที่ไปของความเชื่อ ความศรัทธาตรงนี้
โดยเริ่มการแสดงในเวลา 17.00 น. เป็นการแสดงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม โดยจะจัดแสดงในรูปแบบละคร ความยาวประมาณ 45 นาที เล่าถึงเรื่องราวของมนุษย์กับความศรัทธาและความสามัคคี ที่หลอมรวมให้ชุมชนใน จ.สระแก้ว มีความเข้มแข็งด้วยคุณความดี นักแสดงที่ร่วมแสดงในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนและคนในพื้นที่ จ.สระแก้ว แสดงร่วมกับนิสิตจากทางคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้แก่ สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ รับบท พระเจ้าชยาวรมัน ที่ 2, ณทรรศชัย จรัสมาส รับบท ทยะทิตยะ, ธัญชนก กังนิกร รับบท อนัตตา 2, แพรธารา นิยมไทย รับบท อนันตา และธนิศา ปัญญาภู รับบท พระชายา รวมทั้งนักแสดงกว่า 100 ชีวิต
ซึ่งการจัดงาน "มาฆปูรมีศรีสระแก้ว" และงาน "มาฆบูชาอาเซียน สานสัมพันธไมตรีในมิติพระพุทธศาสนา" ประจำปี2560 การแสดง แสง สี เสียงซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ปราสาทสด๊กก๊อกธม อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ครั้งนี้ยังเป็นส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดสระแก้ว และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด โดยจังหวัดสระแก้วคาดหวังว่าจะมีเงินสะพัดในช่วงงานกว่า 10 ล้านบาท และมีประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย กัมพูชา และชาวต่างชาติ กว่า 100,000 คน นายกล้าณรงค์กล่าวปิดท้าย