กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) โดยกระทรวงมหาดไทย ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมประสานจังหวัดตรวจสอบข้อมูลความเสียหายจากอุทกภัยให้ถูกต้องครบถ้วน และครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย ให้ระบุข้อมูลจำนวนบ้านเรือนที่ต้องดำเนินการซ่อมแซม และวงเงินงบประมาณที่ต้องขอรับการสนับสนุน ด้านการประกอบอาชีพ ทั้งเกษตร ประมงปศุสัตว์ ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่เกษตรกรครัวเรือนละ 3,000 บาท และเงินช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าส่วนอำนวยการ ภายใต้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกันระหว่าง บกปภ.ช. ส่วนกลาง ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บกปภ.ช. ส่วนหน้า ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี รวมถึงหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยเข้าร่วมประชุมฯ สำหรับสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้วทุกจังหวัด ระดับน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ปกติ และอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย บกปภ.ช.จึงได้สั่งการให้จังหวัดตรวจสอบข้อมูลความเสียหายจากอุทกภัยให้ถูกต้องครบถ้วน และครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย ให้ระบุข้อมูลจำนวนบ้านเรือนที่ต้องดำเนินการซ่อมแซม และวงเงินงบประมาณที่ต้องการขอรับความสนับสนุนจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ การซ่อมแซมบ้านเรือนและที่พักอาศัยที่ได้รับความเสียหาย รวม 11,818 หลังมีหน่วยงานรับผิดชอบหลัก 4 หน่วย ได้แก่ ทหาร จำนวน 204 หลัง ตำรวจ จำนวน 39 หลัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 9,102 หลัง ทีมตำบลประชารัฐ (อาชีวะและ กศน.) จำนวน 2,473 หลัง ซึ่งกำหนดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันหรือภายในวันที่ 5 มีนาคม 2560 บ้านเรือนทุกหลังต้องได้รับการช่วยเหลือและซ่อมแซมแล้วเสร็จ สำหรับด้านการประกอบอาชีพ ให้ตรวจสอบข้อมูลความเสียหายครอบคลุมทั้งด้านเกษตร ประมง ปศุสัตว์ พร้อมประสานการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่เกษตรกรให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับจากสถานการณ์อุทกภัยสิ้นสุด หรือวันที่ 30 เมษายน 2560 ทั้งเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 3,000 บาทแก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเงินช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยจ่ายเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 3,000 บาท ได้ภายในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยโดยสนับสนุนการเป่าล้างบ่อบาดาล ทำความสะอาดบ่อน้ำตื้น จัดการขยะมูลฝอย และแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย อีกทั้งให้จังหวัดเสนอแผนงาน โครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะกลาง และระยะยาว โดยวางมาตรการป้องกันเชิงโครงสร้าง อาทิ การเสริมผิวการจราจร ขยายท่อลอด (Box culvert) หรือรื้อถอนสิ่งกีดขวางทางน้ำ การขุดลอกลำคลองสาขาของแม่น้ำสายหลักการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ และการสร้างอ่างเก็บน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเพิ่มเส้นทางให้น้ำระบายลงสู่ทะเลโดยเร็ว