กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กระทรวงแรงงาน เร่งแก้ปัญหาสินค้าไก่ส่งออกดำเนินคดีฟาร์มไม่ปฏิบัติตามกฎหมายปรับเป็นเงินกว่า ๒ แสนบาท พร้อมส่งเสริมนายจ้างฟาร์มไก่กว่า ๓ พันแห่ง จัดทำ GLP เพื่อคุณภาพชีวิตของลูกจ้าง
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) เปิดเผยว่า จากกรณีประเทศเยอรมนีระงับการนำเข้าสินค้าไก่สดและแปรรูปของไทย ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙โดยมีสาเหตุมาจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานของนายจ้าง ส่งผลให้ไทยสูญเสียรายได้จากการส่งออกถึงปีละกว่า ๔ พันล้านบาท พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
มีความห่วงใยในปัญหาดังกล่าว เนื่องจากอุตสาหกรรมสัตว์ปีกของไทยโดยเฉพาะไก่สดและไก่แปรรูปเป็นสินค้าส่งออกอันดับ ๔ ของโลกสามารถทำรายได้เข้าประเทศสูงถึงปีละ ๘ หมื่นล้านบาท
จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ความสำคัญกับการจ้างงานแบบมีธรรมาภิบาล กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในฐานะหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายได้ดำเนินการตรวจแรงงานในอุตสาหกรรมฟาร์มไก่อย่างเข้มข้นเพื่อให้แรงงานได้รับความเป็นธรรมจากการจ้าง ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้ดำเนินคดีนายจ้าง ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน ๔ แห่ง โดยเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน ๒๐๔,๖๑๖ บาท และตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม ๒๕๕๙ ได้ดำเนินการตรวจฟาร์มชำแหละ แปรรูป และแช่แข็งไก่ จำนวน ๒๑๗ แห่ง ลูกจ้างเกี่ยวข้อง ๔,๐๓๙ คน พบการกระทำผิดและออกคำสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องจำนวน ๔๓ แห่ง ลูกจ้างเกี่ยวข้อง ๑,๐๖๔ คน
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ควบคู่ไปกับการตรวจบังคับใช้กฎหมาย กสร.ได้ดำเนินการส่งเสริมให้ฟาร์มเลี้ยงไก่นำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี(Good labour Practices : GLP) ไปปรับใช้เพื่อให้เกิดสภาพการจ้าง การทำงานที่เป็นธรรม แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้ฟาร์มไก่และสถานที่ฟักไข่สัตว์ปีกได้ให้ความร่วมมืออย่างดี ปัจุบันมีฟาร์มฯที่เข้าร่วมแล้ว ๓,๔๓๕ แห่ง ลูกจ้างเกี่ยวข้อง๒๔,๕๐๕ คน