กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--บีโอไอ
หน่วย BUILD บีโอไอประสานสำนักงานที่ปรึกษาด้านการลงทุนแฟรงเฟิร์ต เยอรมัน จัดคณะนักธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของไทยด้านชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์เจาะตลาดบริษัทยักษ์ใหญ่ EMW เดมเลอร์ไครสเลอร์ และโวลด์สวาเก้น พร้อมเตรียมร่วมมือจัดงานใหญ่ "Asia Automotive 2005" หนุนไทยเป็นศูนย์กลางตลาดชิ้นส่วนยานยนต์อาเซียน
นายสุพัฒน์ ลิมปาภรณ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยถึงการนำนักธุรกิจกิจไทยด้านชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ไปประเทศเยอรมัน ในโครงการผู้ซื้อพบผู้ขายของหน่วยเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (BUILD) ระหว่างวันที่ 17-27 เมษายน ซึ่งบีโอไอได้ประสานงานกับสำนักงานที่ปรึกษาด้านการลงทุนประจำกรุงแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมัน จัดขึ้น โดยระบุว่าวัตถุประสงค์ในครั้งนี้ก็เพื่อให้นักธุรกิจไทยเหล่านี้ได้มีโอกาสพบและเจรจาธุรกิจกับบริษัทรถยนต์ที่มีชื่เสียงของเยอรมัน ซึ่งนับเป็นเรื่องยากที่บริษัทเอกชนเข้าถึงบริษัทเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง รวมทั้งยังมีโอกาสได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ จากการเยี่ยมชมสายการผลิตของแต่ละบริษัทด้วย
ในช่วงของการจัดพบปะระหว่างนักธุรกิจไทย และเยอรมันนั้น ได้มีการนำนักธุรกิจเข้าพบและเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท BMW เดมเลอร์ไครสเลอร์ และโวลค์สวาเก้น ทำให้ได้ทราบถึงนโยบายและช่องทางในการติดต่อซื้อขายชิ้นส่วนกับทั้งสองบริษัท โดยเฉพาะเดมเลอร์ไครสเลอร์ นั้น นับเป็นโอกาสดีมากที่บริษัทกำลังอยู่ระหว่างวางแผนจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทางบีโอไอได้แนะนำให้บริษัทได้ทราบถึงฐานข้อมูลอุตสาหกรรมสนับสนุนของอาเซียน ที่บริษัทฯ สามารถเข้าไปค้นหาบริษัทที่มีศักยภาพจะเป็นซัพพลายเออร์ได้ คาดว่าจะมีการติดต่อซื้อขายกันในอนาคตอย่างแน่นอน
นอกจากนี้บีไอโอ ยังได้จัดให้นักธุรกิจไทยได้พบปะและเจรจาธุรกิจกับนักธุรกิจเยอรมัน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักธุรกิจไทยเยอรมันประมาณ 10 ราย โดยบรรยากาศการเจรจาเต็มไปด้วยความจริงจัง ส่วนที่เมืองไลฟ์ซิก ซึ่งร่วมมือกับหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเมืองสดุดการ์ท ทางหอการค้าก็ได้นำนักธุรกิจด้านอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ประมาณ 10 ราย มาพบปะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักธุรกิจไทยเช่นกัน โดยมีการเจรจาในขั้นการตกลงเสนอราคาสินค้า ขณะที่นักธุรกิจเยอมันบางรายแสดงความสนใจการ่วมทุนกับนักธุรกิจไทยด้วย
นายสุพัฒน์ กล่าวอีกว่า การนำธุรกิจไทยมีเปิดตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ที่เยอรมันครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จเพราะไม่เพียงแต่ช่วยแนะนำช่องทางตลาด ให้แก่บริษัทเอกชนเท่านั้น ยังเป็นโอกาสที่แสดงให้ต่างชาติได้เห็นถึงศักยภาพด้านชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยด้วย ซึ่งพบว่ายังไม่เป็นที่รับรู้เท่าใดนัก โดยนักธุรกิจที่ร่วมคณะมาในครั้งนี้ล้วนเป็นบริษัทที่สามารถผลิตสินค้าคุณภาพระดับสากล และบางรายก็มีประสบการณ์ในการผลิตสินค้าป้อนตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว แม้จะไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่ก็ตาม
เตรียมจัด Asia Automotive 2005 ในไทย
นอกจากนี้ ในวันอังคารที่ 24 เม.ย.คณะนักธุรกิจไทยได้เข้าพบกับรัฐมนตรีแห่งรัฐแซกโซนี่ โดยจะมีการหารือกันถึงการจัดงาน "Asia Automotive 2005" ซึ่งจัดว่าเป็นงานมอเตอร์โชว์และยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่ง โดยมีกำหนดจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในปี 2005 ซึ่งรัฐแซกโซนี่ ของเยอรมันจะนำบริษัทรถยนต์ต่างๆ จากเยอรมันมาร่วมจัดงานในครั้งนี้ด้วย คาดว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์มากจากการจัดงานดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะต่อกลุ่มนักธุรกิจไทยขนาดกลางถึงขนาดย่อมที่ทำการผลิตชิ้นส่วนป้อนอุตสากรรมรถยนต์ โดยถือเป็นการเพิ่มโอกาสและเป็นการเปิดตัวในตลาดอาเซียนในด้านศักยภาพการผลิตชิ้นส่วนของไทย
ในโครงการผู้ซื้อพบผู้ขายที่ประเทศเยอรมันระหว่างวันที่ 17-27 เม.ย.ครั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนไทยได้มีโอกาสเข้าชมงาน "ออโต้โมบิล อินเตอร์เนชั่นแนล 2001" ที่เมืองไลฟ์ซิกซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าแสนตารางเมตร ภายในงานมีรถยนต์จากทั่วโลกมาแสดง รวมทั้งชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งระหว่างชมงานดังกล่าว กลุ่มนักธุรกิจไทยก็มีโอกาสได้เสนอสินค้าที่ตนเองผลิตแก่บริษัทที่มาแสดงด้วย และเป็นประสบการณ์สำหรับการจัดงานในประเทศไทยด้วย--จบ--
-นห-