กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--ปตท.
บมจ.ปตท.พร้อมเปิดจองซื้อหุ้นของบริษัทฯ ผ่านทุกสาขาของ 5 ธนาคารใหญ่กว่า 2,000 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเปิดรับใบจอง 14 พฤศจิกายน และเริ่มเปิดจองพร้อมกัน 9.30 น. วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จองก่อนมีสิทธิก่อน ซื้อได้ไม่เกิน 100,000 หุ้นต่อหนึ่งใบจอง โดยต้องชำระเงินในราคา 35 บาทต่อหุ้น ธนาคารพาณิชย์ มั่นใจเตรียมพร้อมทั้งในส่วนพนักงาน ที่จะอำนวยความสะดวก และในส่วนระบบการจองซื้อ ซึ่งจะเป็นไปตามขั้นตอนที่สมบูรณ์แบบ
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในขณะนี้ บมจ.ปตท.ได้เตรียมความพร้อมในการเปิดจองซื้อหุ้นของบริษัทฯ ร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินและธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่าย ประกอบด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกสิกรไทย โดยสาขาธนาคารเหล่านี้ได้จัดเตรียมรายละเอียดการให้บริการจองซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้สนใจสามารถจองซื้อหุ้น และชำระเงินได้ที่ทุกสาขาของทั้ง 5 ธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 15-16 และ19|20 พฤศจิกายน ศกนี้ ในเวลา 9.30 น.เป็นต้นไป โดยหากจองซื้อในวันที่ 15 - 16 (ตลอดช่วงเวลาทำการ) และ 19 (ก่อน 12.00 น.) พฤศจิกายน 44 สามารถชำระเป็นเงินสด หรือเช็คธนาคาร หรือแคชเชียร์เช็ค หรือ ดราฟท์ ในนาม “บัญชีจองซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ปตท.เพื่อผู้จองซื้อรายย่อย” และจะต้องสั่งจ่ายเช็คลงวันที่จองซื้อเท่านั้น ไม่มีการสั่งจ่ายเช็คล่วงหน้า (หลังเที่ยงของวันที่ 19 ต้องชำระเป็นเงินสดเท่านั้น) พร้อมกับนำสำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านแนบมาด้วย ทั้งนี้ ผู้สั่งจองสามารถจองซื้อหุ้นปตท.ได้ ตั้งแต่ 1,000 หุ้นแต่ไม่เกิน 100,000 หุ้นต่อ 1 ใบจอง ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเจ้าหน้าที่ธนาคาร ในเวลาทำการ หรือที่ Call Center โทร 02975-5678 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสมชาย สัญญลักษณ์ศิริ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายธุรกิจตลาดทุนธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนของธนาคารพาณิชย์ทั้ง 5 แห่ง กล่าวว่า ในการจำหน่ายหุ้นสามัญครั้งนี้ ทาง ปตท. มีวัตถุประสงค์ต้องการที่จะให้มีการกระจายสู่รายย่อยที่เป็นประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ และเพื่อเป็นการสนองตอบต่อความต้องการดังกล่าว กลุ่มธนาคารที่เป็นตัวแทนจำหน่ายได้จัดเตรียมระบบเพื่อรองรับการจองซื้อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2544 เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจสามารถขอรับใบจองได้ที่สาขาของทั้ง 5 ธนาคารซึ่งมีรวมกันกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ โดยตัวแทนจำหน่ายแต่ละรายจะดำเนินการจัดระบบการจองซื้อหุ้นของ ปตท. ให้เป็นไปตามขอบข่าย สอดคล้อง และถูกต้องตามกฎเกณฑ์ ของ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ (ก.ล.ต.)
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ในส่วนของความพร้อมของระบบคอมพิวเตอร์ที่จะรองรับการจองซื้อหุ้นสามัญของ ปตท. ในครั้งนี้นั้น แต่ละธนาคารจะใช้ระบบการจองซื้อ On-line ผ่านสาขาของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 5 ธนาคาร โดยข้อมูลการจองซื้อทั้งหมดจะเข้ามารวมศูนย์กลางที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งระบบการเชื่อมข้อมูลการจองซื้อของทั้ง 5 ธนาคารนั้น ได้มีการทดสอบมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการทดสอบระบบเดี่ยวแยกแต่ละธนาคาร และทดสอบระบบรวมทุกธนาคาร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขปรับปรุงระบบต่างๆ เพื่อให้มีความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อนำส่งข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้จัดจำหน่ายทำการจัดสรรต่อไป
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในวันจองซื้อหุ้น เมื่อมีผู้สนใจจองซื้อหุ้นครบตามที่กำหนดไว้สำหรับผู้ซื้อรายย่อยคือ 220 ล้านหุ้น ธนาคารจะประกาศปิดรับการจอง แต่หากปรากฏว่ายังมีผู้สนใจต้องการจะจองต่อไป ทางบริษัทจะขึ้นบัญชีรายชื่อผู้สนใจจองซื้อหุ้นไว้ ทั้งนี้ต้องชำระเงินค่าจองซื้อตามกำหนดเดิม โดยหลังจากธนาคารตรวจสอบความถูกต้องของผู้จองซื้อในกลุ่มแรกแล้ว พบว่ามีหลักฐานไม่ครบถ้วน หรือดำเนินการไม่ถูกต้อง ก็จะต้องสละสิทธิเพื่อให้ผู้จองซื้อรายถัดมาที่ขึ้นบัญชีรายชื่อไว้ได้สิทธิแทน นอกจากนี้แล้ว บริษัทจะมีการพิจารณานำหุ้นในส่วนของกระทรวงการคลัง ที่สำรองไว้แล้วจำนวน 120 ล้านหุ้น ออกมาพิจารณาจัดสรรให้กับผู้สนใจเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง โดยจะทราบผลการพิจารณาจำนวนหุ้นของกระทรวงการคลังที่จะจัดสรรเพิ่มให้ พร้อมกับแจ้งผลการพิจารณาราคาสุดท้ายของหุ้น ปตท. ให้ทราบในวันที่ 21-22 พฤศจิกายน ศกนี้ หากราคาสุดท้ายต่ำกว่าราคาที่จองไว้คือ 35 บาทต่อหุ้น ก็จะคืนเงินส่วนต่างให้กับผู้สั่งจองภายใน 14 วัน ทำการ หลังจากวันปิดกำหนดการจองซื้อ อนึ่ง ปริมาณหุ้นปตท.ที่นำออกจำหน่ายในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 800 ล้านหุ้น โดยจะจำหน่ายในประเทศ 60 % คือ 480 ล้านหุ้น ซึ่งในส่วนนี้ เป็นส่วนที่จะจำหน่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยผ่านสาขาของธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง ขั้นต้นประมาณ 220 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลือเป็นส่วนของสถาบันการเงิน และนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปริมาณหุ้น ปตท.ที่นำออกจำหน่ายทั้งหมดดังกล่าว นอกจากเป็นการสร้างเสถียรภาพในการบริหารงานให้กับปตท.ในอนาคตแล้ว ยังมีส่วนเพิ่มเสถียรภาพของสถานะราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ให้มั่นคงเข้มแข็งได้เป็นอย่างดี ยิ่งกว่านั้นหุ้นของ บมจ.ปตท.จะกลายเป็นหุ้นพลังงานตัวแรกที่มีปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดมากติดอันดับ 1 ใน 3 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกด้วย--จบ--
-สส-