กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อเร็วๆนี้ ได้รับรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ในภาพรวมของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ณ วันที่ 31 มกราคม 2560 คิดเป็นร้อยละ 34.33 ซึ่งการเบิกจ่ายงบฯ ดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่ได้กำชับให้แต่ละกรมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันให้ทันตามที่สำนักงบประมาณกำหนดกรอบเวลาภายในมีนาคมนี้ และที่ประชุมได้รับทราบแผนปฏิบัติการพัฒนาบุคลากร ประจำปี 2560 ของ วธ. ในการจัดอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพและการเป็นข้าราชการที่ดี ประมาณ 300 คน เพื่อเพิ่มทักษะความรู้และพัฒนาศักยภาพผู้บริหารระดับสูงของและข้าราชการของ วธ. ในด้านต่างๆ ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ภาษาอังกฤษและความรู้เรื่องไอที เป็นต้น
นายวีระ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมถึงแนวทางการพัฒนาทักษะความรู้ด้านภาษาอังกฤษ และไอทีอย่างต่อเนื่องให้กับผู้บริหารและข้าราชการ วธ. เพื่อให้สามารถนำมาขับเคลื่อนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการใหม่ ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าควรเน้นพิจารณาเรื่องความรู้ความสามารถและมีทักษะด้านภาษาและไอทีด้วย นอกจากนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานสังกัด วธ. ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ไปรวบรวมข้อมูลรายการการแข่งขันด้านศิลปวัฒนธรรมระดับโลก รวมทั้งเก็บข้อมูลรายชื่อเด็กและเยาวชนที่เคยได้รับรางวัลในรายการดังกล่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อที่ วธ.จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนเด็กและเยาวชนไทยที่จะไปแข่งขันด้านศิลปวัฒนธรรมในเวทีระดับโลกในอนาคต และการส่งเสริมการนำศิลปวัฒนธรรมไทยมาต่อยอดสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) จะจัดประชุมระดมความคิดเห็นในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (พ.ศ.2560-2564) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยของหน่วยงานรัฐ เอกชนและภาคประชาชนมาร่วมหารือ และจัดทำแผนปฏิบัติการย่อยในการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในสาขาต่างๆอาทิ การออกแบบเครื่องแต่งกาย (แฟชั่น) ทัศนศิลป์ เพื่อนำมาต่อยอดและสร้างสรรค์ สร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างรายได้แก่ประชาชนและประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมอาหารไทย ซึ่งเรื่องนี้ได้กำชับให้ สศร. บูรณาการความร่วมมือกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เนื่องจากสวธ.มีแผนงานส่งเสริมอาหารไทยให้เป็นที่นิยมระดับโลก และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาหารนานาชาติด้วย