กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่
"ผมต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ถ้าผมจะทิ้งก็ได้ แต่เพื่อนๆ และผู้ถือหุ้นรายย่อยจะเป็นอย่างไรผมจึงยอมไม่ได้"คำพูดของ หมอวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเอฟอีซี ให้สัมภาษณ์สื่อถึงกรณีปัญหาในไอเอฟอีซี ที่เป็นข่าวใหญ่ในวงการหุ้นขณะนี้
"ไอเอฟอีซี" บริษัทพลังงานทดแทนดาวรุ่ง
ราคาหุ้นพุ่ง 18 บาท ผู้ถือหุ้นกว่า 3 หมื่นราย
หมอวิชัย เล่าถึงที่มาที่ไปของการเข้าสู่อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ว่าเริ่มศึกษาธุรกิจพลังงานทดแทนมาระยะหนึ่ง ก่อนที่จะนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ที่นับถือ บังเอิญได้พบกับนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ที่บ้านผู้ใหญ่คนดังกล่าว เห็นว่าหน่วยก้านดี จึงชักชวนมาร่วมธุรกิจในฐานะที่เขาเก่งเรื่องตลาดทุน
"ผมยอมรับว่าเชื่อใจเขามาก เขาเป็นคนเอาจริงเอาจังกับงานจึงมอบให้เขาดูแลการบริหารในตำแหน่งซีอีโอ โดยตั้งแต่เริ่ม IFEC จนถึงช่วงกลางปี2558 ตัวผมเอง เป็นผู้บริหารในฐานะประธาน CEO แต่ขณะนั้นทิศทางหุ้นของบริษัทยังพุ่งทะยานอยู่ที่ระดับ 17.91บาทและผมไปเรียน วปอ. จึงมอบให้นายสิทธิชัยดูแลการบริหารในตำแหน่งซีอีโอ"
จากรอยร้าวสู่จุดแตกหัก
แต่สถานการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อหมอวิชัยพบว่าการบริหารเริ่มมีสิ่งผิดปกติแต่ในฐานะประธานไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายการบริหารงานของซีอีโอได้กระทำได้ก็เพียงขอคำชี้แจงจากซีอีโอ เท่านั้น
"ผมนั่งตำแหน่งประธานกรรมการ ส่วนสิทธิชัย นั่งซีอีโอผมก็บริหารผ่านบอร์ด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาคือ รายงานต่างๆมันมาไม่ถึงผมที่ผ่านมาเคยส่งสัญญาณให้ทีมบริหารหลายครั้ง เพื่อให้บริหารอย่างถูกต้อง"
กระทั่ง จุดแตกหักระหว่างหมอวิชัย กับ สิทธิชัย เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย.2559 เมื่อหมอวิชัยพบว่า หุ้นของตัวเองมีสัดส่วนลดลงเรื่อยๆและพบว่ามีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ คือ นายทวิช เตชะนาวากุล เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไอเทค เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกราย หมอวิชัย เริ่มที่จะตรวจสอบการบริหารในบริษัทเข้มข้นขึ้น พบว่าการใช้จ่ายเงินไม่สมเหตุสมผลในหลาย ๆโครงการไม่ว่าจะเป็นโครงการโซล่าฟาร์ม ที่ญี่ปุ่น หรือการลงทุนในประเทศออสเตรเลีย เป็นที่มาให้ปลดผู้บริหารฝายการเงิน(ซีเอฟโอ) ออก ตามด้วยผู้บริหารฝ่ายจัดการ (ซีเอโอ)
หมอวิชัย ให้สัมภาษณ์สื่อในเรื่องนี้ว่า ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังนายสิทธิชัย ให้ระมัดระวังการใช้จ่าย เพราะมีสัญญาณเรื่องสภาพคล่องของบริษัท แต่กลับไม่มีปฎิกิริยาใดๆตอบสนอง การใช้จ่ายเงินยังไม่สมเหตุสมผลเช่นเดิม จนต้องให้ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงินออกไป ซ้ำยังพบว่ากรมสืบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังส่งหนังสือมาให้บริษัทไปชี้แจง กรณีมีผู้ร้องให้ตรวจสอบบริษัทในประเด็นการลงทุนของบริษัท โดยเฉพาะเรื่องโรงแรมดาราเทวี
ขบวนการลาออกมุ่งทุบ'หมอวิชัย'
เกมการต่อสู่เริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อหมอวิชัย เริ่มตรวจสอบลงลึก ช่วงปลายเดือน พ.ย.
กรรมการบริษัทฝ่ายนายสิทธิชัย ก็ทยอยลาออก จนทำให้กรรมการจาก 9 คนเหลือเพียง 6 คน หมอวิชัย จึงเรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อจัดตั้งกรรมการใหม่ให้ครบ ป้องกันไม่ให้การบริหารบริษัทสะดุดแต่นายสิทธิชัย พร้อมกรรมการอีกคนหนึ่งไม่มาร่วมประชุมซ้ำยังไปยื่นคัดค้านการประชุมต่อกรมพัฒนาธุรกิจ ต่อมาทั้ง 2 คนก็ลาออกจากกรรมการ ในที่สุดกรรมการบริษัทก็เหลือเพียง 4 คน แผนการของสิทธิชัย ดูเหมือนจะสำเร็จ เพราะสร้างความลำบากให้กับหมอวิชัย เนื่องจากบริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกรรมใด ๆ ได้เลย
"สิทธิชัย" ชักศึกเข้าบ้าน เปิดทาง "ทวิช"ฮุบ IFEC
'สิทธิชัย' เดินเกมออกข่าวผ่านเครือข่ายสื่อในมือซึ่งเจ้าของสื่อนี้ได้ชื่อว่าเป็นนักเล่นหุ้นที่มีคดีใน ก.ล.ต.เป็นกระบุง โดยมุ่งประเด็นหมอวิชัย ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารบริษัทและควรเปิดทางให้ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ (ทวิช) เข้าบริหาร
ต้น เดือน ม.ค. IFEC ต้องเผชิญปัญหาตั๋วบี/อี ถึงกำหนดจ่ายก้อนแรกหมอวิชัย ก็เอาเงินในกระปุกสำรองจ่ายทำให้รอดพันไปคราวหนึ่งแต่อีกไม่กี่วันถัดมาก็ถึงกำหนด บี/อี ก้อนใหม่ และก้อนถัดๆมา หมอวิชัยไม่มีทางเลือก ต้องปล่อยให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้
นอกจากนี้การที่นายสิทธิชัย ยังไม่ลาออกจากบริษัทลูกทำให้การส่งเงินจากบริษัทลูกเกือบ 40 บริษัท เข้าสู่บริษัทแม่ติดขัดจนได้รับความเสียหาย
แม้หมอวิชัย จะชี้แจงผ่านสื่อตลอดเวลาว่าปัญหาเกิดจากบริษัทมีปัญหาต้องตั้งกรรมการใหม่ให้ครบตามกฎหมายจึงจะดำเนินธุรกรรมต่างๆได้ และเรียกร้องให้นายสิทธิชัย ลาออกจากบริษัทเพื่อเปิดทางให้บริษัทลูกทำธุรกรรมซึ่งในที่สุดนายสิทธิชัยก็ลาออกจากบริษัทลูกที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าทั้งหมดแต่ไม่ยอมลาออกจาก 4 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมดาราเทวี
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทลูกก็ยังไม่สามารถดำเนินธุรกรรมการเงินได้เนื่องจากการลาออกของนายสิทธิชัยยังไม่มีหนังสือรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเนื่องจากเกี่ยวพันกับการที่ IFEC ยังไม่มีกรรมการบริษัทครบตามกฎหมาย
ตลอดเดือน ธ.ค. และม.ค. นายสิทธิชัย ยังคงออกข่าวโจมตีหมอวิชัย ต่อเนื่องทั้งในทางลับและทางสว่าง โดยยังคงมุ่งประเด็นหมอวิชัยไม่มีประสิทธิภาพทำภาพลักษณ์บริษัทเสียหายจากการเป็นหนี้ทั้ง ๆ ที่เรื่องทั้งหมดมีจุดเริ่มจากตัวนายสิทธิชัยเอง
กรณีหนี้ของเจ้าหนี้บางราย มีการออกข่าวโจมตีล่วงหน้าว่า IFEC จะผิดนัด ซึ่งหมอวิชัย ก็ยอมรับชะตากรรม ประกาศเจรจากับเจ้าหนี้พร้อมให้คำสัญญาว่าจะจ่ายหนี้ทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยหลังมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
"ทวิช" เปิดตัวตั้งกรรมการบีบ "หมอวิชัย"
เข้าสู่กลางเดือน ม.ค. นายทวิชรุกหนักเปิดตัวบุคคลที่จะเสนอตัวเป็นกรรมการ 7 คน
แข่งกับกรรมการที่หมอวิชัยคัดเลือกมาขณะเดียวกันในทางลับก็ตกลงกับเจ้าหนี้บางราย เพื่อมาบีบบังคับหมอวิชัยให้ขายโรงไฟฟ้าให้ แต่หมอยังยืนยันไม่ขายเพราะโรงไฟฟ้าสามารถสร้างรายได้อย่างดีซึ่งสอดรับกับวันแถลงข่าวเปิดตัวกรรมการของทวิช
หมอวิชัย เดินหน้าสู้ทุกกรณีแม้ว่านายสิทธิชัย หรือเสี่ยอ๋า กับ ทวิชจะออกข่าวโจมตีส่งผลให้การเจรจากลุ่มเงินทุนหลายแห่ง ต้องหยุดชะงักโดยพยายามโต้ข่าวทุกเม็ดที่ฝ่ายตรงข้ามเสนอมาพร้อมท้าให้เปิดความจริงสู้กัน
"หมอวิชัย" ดับเครื่องชนเปิดตัวพันธมิตร
เสริมแกร่งสร้างอนาคตใหม่ให้ IFEC
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา หมอวิชัย เปิดแถลงข่าวถึงความมุ่งมั่นที่จะนำพา IFEC กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "แมคคิวรี่" กองทุนยักษ์ใหญ่จากออสเตรเลียเข้าร่วม รวมถึงกลุ่ม เพลินจิต แคปปิตอล ก็พร้อมที่จะเข้ามาบริหารจัดการหนี้ทั้งหมด และโกล์ดวิน ผู้ผลิตกังหันลมไฟฟ้าเบอร์ 1 ของโลก ก็ตกลงจะเข้าร่วมทุนถึง 30% ในโครงการพลังงานลมภายใต้แผนยุทธศาสตร์เดินหน้าเพื่ออนาคต IFEC Smart forward พร้อมกับเปิดตัวกรรมการที่จะเสนอเข้าคัดเลือกเพื่อชิงเก้าอี้กรรมการบริษัทในวันประชุมผู้ถือหุ้นที่ 14 ก.พ.นี้ด้วย
แต่ทั้งหมดทั้งปวงก่อนที่จะเดินหน้าตามแผน หมอวิชัย บอกว่าต้องทำความสะอาดบ้าน สะสางทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะจากการตรวจสอบที่ผ่านมา พบความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับความผิดในบริษัทที่ผู้บริหารชุดเก่าทำไว้มากมาย ทั้งเรื่องตั้งบริษัทขึ้นมาเป็นตัวแทนจำหน่าย"มาการอง" กินนายหน้า 20 % มาขายให้ไอเฟค การซื้ออาคารสำนักงานที่มีมูลค่ากว่า 60 ล้านทั้งๆที่ก่อนที่ไอเฟคซื้อมีการโอนให้นายหน้าแค่ 10 ล้านบาทการซื้อขายที่ดินที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่มีการเล่นแร่แปลธาตุตัดเอาที่ดินบริษัทไปเป็นของผู้ซื้อที่มีชื่อของกลุ่มที่แสวงหาผลประโยชน์ใน ไอเฟค ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ทำการฟ้องร้องไปแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกรณีโรงแรมดาราเทวีที่มีการเล่นกลเอาเจ้าของเดิมที่เป็นลูกหนี้ กลับกลายมาเป็นเจ้าหนี้ซึ่งทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่างอยู่ในกลุ่มก๊วนเดียวกันจึงอยากถาม นายทวิช ว่า บ้านมีปัญหา บ้านไม่สะอาดแล้วใครจะมีความเชื่อมั่นกล้าเข้ามาลงทุนกับท่านเหรอ!!!!!!