กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--Make A Wealth Consulting
การไฟฟ้านครหลวง เดินหน้าสานต่อโครงการปีที่ 5 เผยตัวเลขน่าภูมิใจ ผลสำเร็จของโครงการประกวดอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Saving Building ตลอดระยะเวลาโครงการ 4 ปี ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 20.5 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ่าที่ประหยัดได้ 83.86 ล้านบาท ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซต์ลง 12,597 ตัน โดยมีเงินลงทุนรวมของอาคาร187.85 ล้านบาท จาก 8 ประเภทอาคารที่เข้าร่วมโครงการกว่า 247 แห่ง ร่วมมือร่วมใจประหยัดพลังงานในอาคารช่วยชาติสรุปผลการประกวดปีที่ 4 โรงเรียนแจงร้อนวิทยาและบริษัทเซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัด คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงานดีเลิศ MEA Energy Saving Building Awards 2016
นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน) เปิดเผยว่า กฟน. ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร หรือ MEA Energy Saving Building เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงานของพนักงานภายในองค์การผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างจิตสำนึกร่วมกันในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและพัฒนาสู่การเป็นต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานระดับประเทศและในระดับสากลโดยจัดประกวดอาคารลุล่วงมาเป็นปีที่ 4 แล้วจากเป้าหมายดำเนินโครงการรวม5 ปี เริ่มดำเนินการ ระหว่าง พ.ศ. 2555-2559
โดยมีอาคารเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 247 แห่ง จากอาคาร8 กลุ่มคือ กลุ่มอาคารประเภทโรงพยาบาล, โรงแรม, สำนักงาน, มหาวิทยาลัย, ไฮเปอร์มาเก็ต, ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งปรากฏผลประหยัดเป็นที่ประจักษ์จากความร่วมแรงร่วมใจของอาคารและทุกภาส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยช่วยลดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 20.5 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินที่ประหยัดค่าไฟได้ 83.86 ล้านบาท ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซต์ลง 12,597 ตัน โดยมีเงินลงทุนของอาคารรวม 187.85 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินโครงการปีที่ 4 ในอาคารโรงเรียนและร้านสะดวกซื้อมีมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารมากถึง 114 มาตรการมีเงินลงทุนรวมของอาคารทั้งสิ้น 21,376,973 บาท ระยะเวลาคืนทุนเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 2.85ปีผลประหยัดรวมของโครงการ สามารถลดพลังงานไฟฟ้าลงได้ 1,678,143 หน่วยต่อปีคิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ 7,504,076 บาทต่อปี และยังช่วยโลกลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 976 ตันต่อปี
ทั้งนี้ ในการประกวดอาคารปีที่ 4 เป็นการแข่งขันในอาคารประเภทโรงเรียนและร้านสะดวกซื้อ มีอาคารสมัครเข้าร่วมจำนวน 146 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียน จำนวน 20 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ จำนวน 126 สาขา โดยมีอาคารที่ผ่านเกณฑ์ MEA Index ได้รับตราสัญลักษณ์ "กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน" ในระดับที่ 1 จำนวนทั้งสิ้น 74 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียน 15 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ 59 สาขา จาก 4 ผู้ประกอบราย ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น 14 สาขาบริษัทเซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัดร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท 16 สาขาบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี 6 สาขาบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ร้านสะดวกซื้อเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 23 สาขา
สำหรับอาคารได้รับตราสัญลักษณ์ระดับที่ 1 แล้วจะเข้าแข่งขันต่อในระดับที่ 2 โดยในปีที่ 4 นี้ มีอาคารที่ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 38 แห่ง แบ่งเป็นอาคารโรงเรียน 14 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ 24 จากผู้ประกอบการ 4 ราย มีผลการพิจารณาตัดสินรางวัลในแต่ละประเภท ดังนี้
อาคารประเภทโรงเรียน รางวัล "กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศ"พร้อมกับได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และเป็นสุดยอดอาคารประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวงปีที่ 4 ประเภทโรงเรียนจำนวน 1 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนแจงร้อนวิทยา
รางวัล "กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษ"พร้อมกับได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท จำนวน 3 รางวัลได้แก่ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โดยมีโรงเรียนได้รับ รางวัล "กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่น"(ไม่มีเงินรางวัล) จำนวน 9 รางวัล
สำหรับ อาคารประเภทร้านสะดวกซื้อ ได้แบ่งการพิจารณาตัดสินและมอบรางวัลให้กับอาคารเป็นกรณีพิเศษ โดยได้พิจารณาตัดสินผลคะแนนเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 ร้านสะดวกซื้อ (สำนักงานใหญ่)และ ส่วนที่ 2 ร้านสะดวกซื้อ (สาขา) ส่วนที่ 1ร้านสะดวกซื้อ (สำนักงานใหญ่) รางวัล "กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศ"พร้อมกับได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และเป็นสุดยอดอาคารประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวงปีที่ 4 ประเภทร้านสะดวกซื้อ จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัดผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท
รางวัล "กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษ"พร้อมกับได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ มินิบิ๊กซี บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัดผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ส่วนที่ 2ร้านสะดวกซื้อ (สาขา) สาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์"กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศ" จำนวน 1สาขา แฟมิลี่มาร์ทสาขาชานเมืองแยก 4 สาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์"กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษ" จำนวน 5 สาขา ได้แก่ แฟมิลี่มาร์ทสาขาสุขุมวิท 48 แฟมิลี่มาร์ทสาขาชุมชนราม 53 แฟมิลี่มาร์ทสาขาหมู่บ้านเพิ่มสุข มินิบิ๊กซี สาขาบางกระดี่ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาพุทธมณฑลสาย 2 และสาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์"กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่น" อีกจำนวน 14 สาขา
สำหรับในปี 2560 กฟน. ยังคงเดินหน้าสานต่อโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารต่อในปีที่ 5 หรือ MEA Energy Saving Building 2017 ด้วยการจัดประกวดสำหรับอาคาร 4 กลุ่ม คือ อาคารโรงพยาบาล, โรงแรม, สำนักงาน และศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า เปิดรับสมัครอาคารเข้าร่วมโครงการในเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมาและจะดำเนินการแข่งขันต่อเนื่องถึงเดือนธันวาคม 2560 โดยมีอาคารสมัครเข้าร่วมในปีที่ 5 จำนวน 29 แห่ง ประกอบด้วย อาคารโรงแรม 6 แห่งโรงพยาบาล 7 แห่ง สำนักงาน 8 แห่ง และศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า จำนวน 8 แห่ง มีอาคารที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพการใช้พลังงานและดัชนีการใช้พลังงาน MEA Index ตามที่ กฟน. กำหนดและได้รับตราสัญลักษณ์ "กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน" ในระดับที่1 จำนวน 23 แห่ง โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวโครงการต่อเนื่องได้ที่www.meaenergysavingbuilding.netและwww.facebook.com/MEAAward
"โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารนั้น เป็นการแสดงเจตจำนง อย่างชัดเจน ของ กฟน. ในการส่งเสริมให้มีการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม และคุ้มค่า การปรับปรุงประสิทธิภาพของการใช้พลังงานนั้นนอกจากเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ ในด้านการจัดการต้นทุนแล้ว ยังช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกด้วย ความร่วมมือความร่วมใจของทุกอาคารที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ นับเป็นเป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องการที่ กฟน. ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้เจ้าของอาคารเกิดแรงจูงใจในการอนุรักษ์พลังงาน ใส่ใจการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมในการช่วยยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ กฟน. ภายใต้ค่านิยม ระบบไฟฟ้ามั่นคง บริการมั่นใจ ห่วงใยสังคม " นายชัยยงค์กล่าว