กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--กทม.
กทม.ร่วมมือกับปตท.สัมมนาระดมความคิดเพื่อจัดทำแผนการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถเก็บขยะของกทม. ปตท.เตรียมงบฯ 160 ล้านบาท ในการปรับแต่งเครื่องยนต์และสร้างสถานีเติมก๊าซ
เมื่อวานนี้ (8 พ.ย.44) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการและการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง “โครงการศึกษาเพื่อจัดทำแผนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนในยานพาหนะของกรุงเทพมหานคร” โดยมี นายพิชัย ไชยพจน์พานิช ผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด นายชนินทร์ รุ่งแสง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางกอกน้อย นายวิชัย พรกีรติวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ โครงการกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 50 คน ร่วมสัมมนา
นายวิชัย กล่าวว่า ในปี 2543 ประเทศไทยต้องพึ่งพาพลังงานที่ได้จากผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 56 % ของแหล่งพลังงานทั้งหมดที่ใช้ภายประเทศ หรือประมาณ 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน การจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงกว่าร้อยละ 95 ต้องนำเข้าในรูปน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ในปี 2543 ประเทศไทยต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศเป็นมูลค่าสูงถึงประมาณ 3 แสนล้านบาท ประกอบกับการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ใช้ยานยนต์และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ มลพิษทางอากาศที่เริ่มเป็นปัญหาหลักของเมืองหลวงและเมืองใหญ่ของประเทศเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายทางสังคมในการดูแลสุขภาพของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น โดยสาเหตุหลักของปัญหาเนื่องมาจากไอเสียจากยานพาหนะและโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ ผงฝุ่นละอองเล็กซึ่งประกอบด้วยควันดำ และผงฝุ่นละออง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากไอเสียรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล สำหรับปริมาณคาร์บอนมอนออกไซด์ มีสาเหตุหลักมาจากไอเสียของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน
นายวิชัย กล่าวต่อไปว่า จากผลกระทบของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รัฐบาลได้มีนโยบายกำหนดเป็นมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 ต.ค.42 และเมื่อวันที่ 28 มี.ค.43 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายและพลังงานแห่งชาติให้ส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคคมนาคมขนส่งมากขึ้น และให้ขยายการใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทนน้ำมันในภาคการผลิตไฟฟ้าอุตสาหกรรมและคมนาคมขนส่ง และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพมหานครได้เห็นชอบในหลักการสนับสนุนกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีรายจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงค่อนข้างสูงจากสถิติงบประมาณการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงรายจ่ายประจำปี 2542-2543 เป็นงบประมาณเฉลี่ย 427 ล้านบาท และสูงถึง 480 ล้านบาทในปี 2544 สำหรับการจัดทำแผนการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนในยานพาหนะของกทม.นั้น จะใช้เฉพาะรถเก็บขนขยะของกทม. จำนวน 345 คันเท่านั้น ไม่ใช่รถทั้งหมด โดยการเปลี่ยนแปลงเชื้อเพลิงจะทยอยเปลี่ยนจนครบ 345 คัน ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายหลังจากการสัมมนาครั้งนี้สิ้นสุดลง โดยทางปตท.ได้ตั้งงบประมาณเตรียมไว้ประมาณ 160 ล้านบาทในการปรับแต่งเครื่องยนต์และก่อสร้างสถานีเติมก๊าซ NGV โดยจะมีการก่อสร้างในสถานที่ที่มีความเหมาะสม รถเก็บขนขยะสามารถเข้าไปเติมเชื้อเพลิงได้อย่างสะดวก ซึ่งจะมีการออกแบบให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพตามาตรฐานสากลอีกด้วย--จบ--
-นห-