กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--"คาร์ฟูร์"
"คาร์ฟูร์" ออกสินค้าเฮาส์แบรนด์ลอตใหม่ ขนสินค้าทั้ง "ไทย-เทศ" ไล่ดะตั้งแต่ฟิล์มถ่ายรูป เตารีด ยันเตาแก๊ส ประกาศกร้าวต้นปีหน้าโหมรุกหนักเต็มสปีด เน้นจับกลุ่มตลาดล่าง-กลาง ซัพพลายเออร์ไทยยอมรับ "หนาว" กระทบโดยตรง ดูเหมือนว่านโยบายปูพรมเปิดสาขาทั่วประเทศของบรรดายักษ์ใหญ่ค้าปลีกข้ามชาติจะเป็นสัญญาณเตือนภัยแรกที่ทำให้ผู้ค้าปลีกสัญชาติไทยต้องตกอยู่ในอาการร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน ล่าสุดค้าปลีกข้ามชาติเหล่านี้ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยเป็นครั้งที่ 2 ให้ซัพพลายเออร์ต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดมากขึ้น
เกมรุกระลอกใหม่ของค้าปลีกข้ามชาติก็คือสินค้า "เฮาส์แบรนด์" ซึ่งแต่ละค่ายผลิตขึ้นจำหน่ายเอง แม้ว่าที่ผ่านมาโมเดิร์นเทรดพวกนี้จะออกสินค้ากลุ่มนี้นานแล้ว แต่ครั้งนี้แนวรุกของ "เฮาส์แบรนด์" ขยายตัวขึ้นอย่างน่ากลัว น่าสังเกตก็คือ คาร์ฟูร์ได้เพิ่มจำนวนสินค้า "เฟิรสต์ไลน์" เป็นจำนวนมาก มีทั้งถ่านอัลคาไลน์ กาแฟ กะทิ ผลไม้กระป๋อง แผ่นฟิล์มถนอมอาหาร ผลิตภัณฑ์ล้างจาน แป้งเย็น ฯลฯ กระทั่งสินค้าซึ่งหลายๆ คนอาจมองว่าไม่น่าจะนำมาทำเป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ได้ อาทิ กล้องถ่ายรูป เตารีด ฟิล์มสี ซาวนด์อะเบาต์ หูฟังสเตอริโอ หลอดไฟ สายอากาศทีวี หม้อหุงข้าว เตาแก๊สตั้งโต๊ะ กล้องส่องทางไกล กระเป๋ากล้อง ผู้บริหารคาร์ฟูร์ กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทมีแผนจะโปรโมตสินค้าเฮาส์แบรนด์ของคาร์ฟูร์อย่างจริงจังมากขึ้น
ดังนั้น ตอนนี้คาร์ฟูร์จึงต้องเร่งออกสินค้ากลุ่มนี้ให้มากที่สุดถึงราว 200 รายการ โดยเฉพาะช่วง 2 เดือนนี้จะมีสินค้าใหม่ๆ ทยอยออกมาอีกมาก ส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่มอุปโภค แหล่งข่าวในบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม็คโครมีแผนจะเพิ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์ให้ได้ 150 รายการภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มี 1,100 รายการ โดยเน้นกลุ่มสินค้าที่ลูกค้าซื้อเพื่อนำไปแปรรูปขายต่อและซื้อเพื่อใช้ในธุรกิจ เช่น กลุ่มอาหารสดและเครื่องใช้ภายในสำนักงาน มุ่งเจาะกลุ่มร้านอาหารภัตตาคารและอาคารสำนักงานต่างๆ ซึ่งเป็นลูกค้าหลัก จากที่ผ่านมาสินค้าเฮาส์แบรนด์มีส่วนแบ่งยอดขายแล้ว 5% จากยอดขายรวม ทั้งนี้ สินค้าที่ขายได้ดีเป็นพิเศษ คือ น้ำดื่ม กระดาษทิสชู ไส้กรอก นอกจากนี้ โกดักและคาร์ฟูร์ยังมีนโยบายร่วมกันในระดับเวิรลด์ไวด์ด้วยว่าจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการจัดพื้นที่ในการแสดงสินค้าของโกดักให้เป็นที่เห็นเด่นชัดและสะดวกต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่เข้ามาในคาร์ฟูร์ด้วย ขณะที่ผู้บริหารจากบริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด เองก็ไม่เชื่อว่าเครื่องไฟฟ้าชาร์ปจะได้รับผลกระทบดังกล่าวเช่นกัน เพราะสินค้าที่มีการลอกเลียนแบบรูปทรงของชาร์ปจะเน้นจับกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่ม ขณะเดียวกัน บริษัทเองก็มีแบรนด์ มัตสุ ซึ่งเป็นไฟติ้ง แบรนด์ ของชาร์ป ซึ่งราคาถูกกว่า 20% ไว้จับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจตลาดพบว่า มีการผลิตสินค้าในลักษณะนี้ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ในระยะยาวอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยรวม ซึ่งบริษัทเองจะมีการปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาตลาดอีกครั้งหนึ่ง นายเพิ่มเกียรติ บุญอำนวย ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท โอลีน จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช "โอลีน" กล่าวว่า ซัพพลายเออร์แต่ละรายจะได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคไม่ค่อยมีแบรนด์ลอยัลตี้ และลูกค้าจะซื้อโดยเลือกจากราคาต่ำเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ แต่คงไม่มีผลกระทบโดยรวมมากนัก เนื่องจากปัจจุบัน ธุรกิจค้าปลีกแต่ละค่ายก็ได้วางโพซิชั่นนิ่ง และแยกเซ็กเมนต์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนค่อนข้างชัดเจน ขณะที่นายวรเทพ รางชัยกุล ผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท อาดัมส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายลูกอมฮอลล์ หมากฝรั่งชิเคล็ทส์ เดนทีน และลูกอมคลอเร็ท เห็นว่าในระยะยาวแล้วการผลิตสินค้าเฮาส์แบรนด์ของค้าปลีกรายใหญ่เป็นเรื่องที่น่าจับตามาก เพราะมีผลกับซัพพลายเออร์ในประเทศโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันกำแพงภาษีสินค้านำเข้าในรูปแบบต่างๆ ได้ลดลงมาก ประกอบกับค้าปลีกรายใหญ่เหล่านี้มีเครือข่ายอยู่ในแทบทุกมุมโลกทำให้สามารถแสวงหาแหล่งผลิตที่มีต้นทุนต่ำๆ และนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายแข่งขันซัพพลายเออร์ในประเทศได้--จบ--
-สส-