กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--เอ็มที มัลติมีเดีย
บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT เปิดแผนธุรกิจปี 60 ชูกลยุทธ์ Full Multi Channel รุกขยายตลาดทุกช่องทางการขายทั้งในไทยและต่างประเทศ เดินเกมเพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โครงการอสังหาริมทรัพย์และตลาดส่งออกในอาเซียน พร้อมรักษาสัดส่วนการขายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ตั้งเป้าผลักดันผลการดำเนินงานปีนี้เติบโต 5% ด้านผู้บริหารประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นตัวดีขึ้นจากปัจจัยภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาพืชผลการเกษตรปรับตัวดีขึ้น หนุนเอกชนลงทุนและดันความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่ม เชื่อปีนี้กลุ่มสินค้าไม้สังเคราะห์ ไม้พื้นและไม้รั้ว ฮิตติดเทรนด์ผู้บริโภคนำไปใช้ในการก่อสร้างมากขึ้น
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ 'ตราเพชร' เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางแผนธุรกิจปี2560 ที่จะรุกขยายตลาดทุกช่องทางการขายแบบ 360 องศา หรือ 'Full Multi Channel' โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดทุกช่องทางทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้แก่ ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราเพชรทั่วประเทศ โครงการอสังหาริมทรัพย์และตลาดส่งออกในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ยังศึกษาพัฒนาช่องทางขายใหม่ๆ เพิ่มเติม ที่จะรองรับกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้ที่ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 5%
สำหรับปัจจัยการเติบโตในปีนี้ ยังคงมาจากตลาดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาและเวียดนาม ที่บริษัทฯ มีแผนเพิ่มยอดขายจากการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวให้มากขึ้น ขณะที่ตลาดในประเทศนั้น ตราเพชรจะชูจุดแข็งด้านสินค้าที่หลากหลายสามารถนำไปสร้างบ้านได้ทั้งหลังและมีบริการช่างติดตั้ง เป็นพลังในการขยายตลาดกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ทั้งช่องทางขายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่และลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในปีนี้ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้สำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรที่ดียิ่งขึ้น การลงทุนขยายพื้นที่จัดเก็บสินค้า รวมถึงวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการใช้สินค้าเพื่อพิจารณาการลงทุนรองรับความต้องการใช้สินค้าในอนาคต
"เราประเมินว่าในปีนี้ช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและตลาดส่งออก ยังคงเป็นพระเอกที่ช่วยผลักดันการเติบโต โดยสินค้ากลุ่มบอร์ด ไม้พื้น ไม้รั้ว จะมีความต้องการใช้เพื่อนำไปก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ดังนั้น เรายังคงมุ่งมั่นสร้างตราสินค้าพร้อมทำรายการส่งเสริมการขายและการให้บริการที่ดีจากทีมช่างตราเพชร เพื่อเสริมศักยภาพการทำตลาดให้แข็งแกร่งและรองรับโอกาสจากการฟื้นตัวของตลาดวัสดุก่อสร้าง" นายสาธิต กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร กล่าวว่า จากแผนดำเนินธุรกิจดังกล่าว บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโต 5% ในปี 2560โดยในแต่ละช่องทางการขาย ได้แก่ ตลาดส่งออกจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายจาก 17-18% เป็น 18-19% ของรายได้รวม ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่จาก 13% เป็น 14-15% ของรายได้รวม โครงการอสังหาริมทรัพย์จาก 14% เป็น 15% ของรายได้รวม ส่วนร้านค้าตัวแทนจำหน่ายยังคงเป็นช่องทางการขายที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ โดยจะรักษาสัดส่วนยอดขายไว้ที่กว่า 50% ของรายได้รวม
ขณะที่ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างคาดว่าจะเห็นการเติบโตประมาณ 5% ปัจจัยมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ที่จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงราคาพืชผลการเกษตรที่เพิ่มขึ้น อาทิ ยางพารา อ้อย ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อบรรยากาศการจับจ่ายและกำลังซื้อของผู้บริโภค
"ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในปีนี้ฟื้นตัวได้ดีกว่าหลายปีที่ผ่านมา เห็นได้จากสัญญาณบวกของร้านค้าตัวแทนรายย่อยที่เริ่มสั่งสินค้าเข้าไปสต๊อกในช่วงฤดูกาลขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยสินค้าของเรามียอดผลิตและสั่งซื้อเพิ่มขึ้น เช่น หลังคาจตุลอน หลังคาคอนกรีตอดามัส แผ่นบอร์ด ผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สังเคราะห์" นายสาธิต กล่าว