กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
เมื่อโลกเปลี่ยน วิถีชีวิตไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยน สู่ยุคดิจิตอล เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงโลก ระบบอินเตอร์เน็ตที่สามารถเชื่อมต่อทุกสิ่งอย่าง ภาคธุรกิจเริ่มปรับเปลี่ยนมีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านไอทีมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับภาครัฐที่มีนโยบาย Digital Economy 'ไทยแลนด์ 4.0' ที่ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม เพื่อรองรับการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีดิจิตอลเข้าด้วยกัน หรือที่เรียกว่า S-M-I-C (Social–Mobile–Cloud–Information) จนทำให้สายงานที่มาแรงที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นสายงานด้านไอที
เพราะเทคโนโลยีกลายเป็นจุดเปลี่ยนสู่ปรากฏการณ์ Digital Transformation ที่รูปแบบเทคโนโลยีสื่อดิจิตอลถูกนำมาปรับใช้ในองค์กร เรียกได้ว่ายุคนี้เป็นยุคของ Digital Economy อย่างแท้จริง โดยส่งผลให้กลุ่มงานด้านไอทีกลายเป็นเทรนด์ที่ต้องการของตลาดแรงสุดแห่งปี เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ดังนั้นสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนต้องปฏิรูปเร่งพัฒนาบุคลากรทางด้านไอที และทำให้ทุกคนมีความรู้ความสามารถทางด้านดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนในเรื่องของนวัตกรรมสร้างชาติ และจัดหลักสูตรการเรียนการสอน พร้อมใช้นโยบาย Teach Less Learn More เน้นการเรียนรู้นอกห้องเรียน และต้องมีพื้นที่ในการทำกิจกรรม Learning Space ตลอดจนการทำ Co-Working ร่วมกับภาคเอกชน ดังนั้นวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาสร้างการเติบโตให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงโลกสมัยใหม่ จึงได้ร่วมกับ 4 บริษัทชั้นนำจากต่างประเทศและในประเทศไทย ได้แก่ บริษัทอินเตอร์สเปซไทยแลนด์, บริษัท GMO Z.Com จากประเทศญี่ปุ่น และบริษัทจากประเทศจีน ได้แก่ บริษัท Gmak Tech Supply และ อีกหนึ่งบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ของประเทศไทย ขนาดใหญ่ คือ บริษัท E Business Plus โดยทั้ง 4 บริษัทได้ร่วมมือกับแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อดิจิตอล (ITM) วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม(สยามเทค) ในการจัดการกระบวนการเรียนรู้ผ่านการทำงานจริง ในสาขาอาชีพ Digital entrepreneur , Digital Marketer, IT Support , และ IT Freelance รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) กล่าวว่า โลกกำลังก้าวสู่การปฏิวัติครั้งใหม่ ที่จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทำให้หลายประเทศต่างก็ตื่นตัวกับผลกระทบที่จะติดตามมาด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจาก ปัจจุบันทุกประเทศบนโลกมีการเชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดนในทุกมิติ ทั้งความร่วมมือทางการค้า ความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่า ในอีกมุมหนึ่ง ย่อมเกิดการแข่งขันกันสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ดังนั้นเราจำเป็นต้องปรับตัวสู่การพัฒนาในยุค 4.0 เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองในการแข่งขันนั่นเอง และนับเป็นโอกาสที่ดีที่โครงการนี้ได้เข้าร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้านไอทีระดับชั้นนำของโลก
"การจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงานด้านดิจิตอล (Digital Work-integrated Learning ) หรือ ' DWiL Model' คือเป?นการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ที่ช่วยให้?ผู้เรียนได้นำความรู้มาในการประยุกต์ใช้ ทั้งทักษะการทำงาน และทักษะเฉพาะที่สัมพันธ์กับวิชาชีพ นั่นก็คือ 'ทวิภาคี 4.0' ทำให้ได้รู้จักชีวิตที่แท้จริงของการทำงานตั้งแต่ยังไม่สำเร็จ
การศึกษา ...โดยในช่วงเช้าจะเรียนรู้ทฤษฎีสมรรถนะทางวิชาชีพที่จำเป็น และในช่วงบ่ายจะได้ฝึกการทำ E-Commerce บนโลกออนไลน์มีสินค้า ในราคาต่ำกว่าต้นทุนให้ฝากขาย โดยที่ไม่ต้องสำรองเงินทุน ทั้งมีระบบการทำ Digital Marketing ให้ได้ทำจริง จนเกิดเป็นรายได้ที่ปันผลมาจากยอดขายสินค้าตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด ซึ่งจะทำให้มีรายได้ในระหว่างเรียน โดยบริษัทที่ร่วมในโครงการนี้ จะให้รายได้ประจำ 12,000 บาทต่อเดือน หากรวมค่าคอมมิชชั่นแล้วจะมีรายได้รวมมากกว่า 20,000 บาทต่อเดือน และบางคนสามารถทำรายได้สูงสุดกว่า 100,000 บาทต่อเดือนก็มี ซึ่งเป็นรายได้จริงระหว่างศึกษาอยู่ แต่หากจบแล้วจะมีรายได้ 35,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นในยุคนี้ 'ทำน้อยเหนื่อยน้อยแต่ได้เงินมาก' นั่นคือการนำนวัตกรรมมาใช้ และรู้เท่าทันเทคโนโลยี ทั้งความคิดสร้างสรรค์มาสร้างมูลค่าเพิ่มนั่นเอง ...นอกจากนี้ ยังมีระบบในการหางาน ออกแบบกราฟิก เว็บไซต์โปรแกรมมิ่ง ให้ผู้เรียนได้ทำแบบฟรีแลนซ์หรือพนักงานมืออาชีพที่ไร?สังกัด รับงานจริง มีรายรับจริง และมีการฝึกการใช้งานโปรแกรมด้าน Payroll การติดตั้งและแก้ปัญหาเบื้องต้น เพื่อให้ผู้เรียนได้ไป Service จริงกับบริษัทที่เป็นคู่ค้าจนก่อเกิดรายได้ และมีเงินเดือนในระหว่างเรียนอีกด้วย การจัดการเรียนการสอนแบบนี้ ผู้เรียนสายอาชีพด้านไอที สถานศึกษา และสถานประกอบการ ต่างก็ได้ประโยชน์ซึ่งการันตีเลยว่าบริษัทจะได้รับพนักงานที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน"
ด้าน ดร.เฉลิมรัฐ นาควิเชียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GMO Z.com กล่าวว่า อยากเห็นเด็กอาชีวะภาพลักษณ์ใหม่ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และไม่หยุดนิ่งพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้เท่าทันต่อโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจึงอยากมาร่วมมือกับสยามเทคสร้างโมเดลใหม่ให้กับเด็กอาชีวะที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศให้เข้มแข็งและมีคุณภาพ
มร.ยูยะ นากะ ประธานบริหาร บริษัทอินเตอร์สเปซ ไทยแลนด์ (Accesstrade ) จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทท็อปชั้นนำ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ในการร่วมมือครั้งนี้ เราต้องการที่จะร่วมผลิตบุคลากรตรงตามเทรนด์ของตลาดแรงงาน ดังนั้นอยากเห็นคนรุ่นใหม่ยุค 4.0 จะมาสร้าง Digital Business ของไทย เพื่อตอบโจทย์ตลาดในยุคดิจิตอล ให้เป็นตลาดที่ถูกต้อง และเติบโตอย่างยั่งยืน มร.โมเชน นิง ประธานบริหาร บริษัท Gmak - Tech Supply จากประเทศจีน และผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าด้านไอทีและเกมเมอร์รายใหญ่ ในประเทศไทย กล่าวว่า เราเป็นท็อปผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านไอที 1 ใน 10 ของประเทศจีน เราส่งให้ทั้งทาง Lasada และอื่นๆ ด้วย การได้ร่วมมือครั้งนี้ เราอยากเป็นคนรุ่นใหม่ได้มาเรียนรู้ แล้วได้ประสบการณ์จริงจากโครงการ DWiL นี้ ซึ่งจะนำไปสู่อนาคตอันสดใสในโลกยุคดิจิตอลวันนี้
ดลญา อเนกอนันต์ วัย 19 ปี คนรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมตกเทรนด์ เล่าว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ยิ่งเราเป็นคนรุ่นใหม่ตกเทรนด์ไม่ได้ เราต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยีสมัย ต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา แล้วต้องศึกษาอย่างจริงจัง ต้องทำให้ได้ แล้วมาปรับใช้ให้ถูกต้อง "เราเรียนทางด้านคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ปวส. 2 แล้วค่ะ ตอนนี้ทำเวบไซต์เอง อย่าง JoomLa โดยออกแบบและดีไซน์เวบเองค่ะ และรับทำโฆษณาทางออนไลน์ ทำบทความต่างๆ ทั้งดูแลบริหารเวบไซต์ ซึ่งต้องการมีการเคลื่อนไหว และมีการปรับเปลี่ยนเรื่องราวอัพเดทตลอดเวลา ซึ่งทำให้เวบนิ่ง จะทำให้มีคนเข้ามาตลอดเวลา
...เป็นงานที่มีรายได้ที่ดี คือเราเรียนไปด้วย แล้วก็สามารถทำงานไปด้วย หลังจากได้เรียนทฤษฎีแล้ว เมื่อมีเวลาว่าง ช่วงเย็น ช่วงกลางคืน ก็สามารถสร้างรายได้ได้ค่ะ เดือนนึงได้เป็นหมื่นๆ เลยค่ะ ...ยิ่งตอนนี้ โครงการ DWiL (Digital Work-integrated Learning) น่าสนใจมากค่ะ เพราะจะมุ่งมาทางด้าน Digital Economy โดยเฉพาะ เรียนจริง ปฏิบัติจริง แล้วมีรายได้จริงต่อเดือนด้วย กว่าจะจบหลักสูตร ก็ยิ่งทำให้เชี่ยวชาญมากขึ้น แล้วที่สำคัญได้ทำงานได้หลายอย่าง โดยที่เราไม่เหนื่อยมาก ใช้เทคโนโลยีให้เป็นนี่แหละ จบหลักสูตรไปก็ไม่ตกงานด้วยแน่นอน น่าสนใจมากค่ะ" ชุติมา จันทร์สม วัย 20 ปี บอกว่า นำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ที่เรียนมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากมาย ทั้งการเรียนรู้ หาข้อมูลต่างๆ และที่สำคัญเปิดเวบไซต์ขายเครื่องสำอางจนเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สาวๆ ผู้รักรักความงามทั้งหลาย "ขายดีค่ะ ก็ไปตามเทรนด์ ทำไปทำมาคนเข้ามาสนใจเยอะ บางทีเขาก็บอกกันปากต่อปาก เราเรียนไปด้วย ทำงานตรงนี้ไปด้วย มีรายได้โอเคเลยค่ะ อย่างน้อย 8,000 บาทต่อเดือน ในการทำงานตรงนี้เราต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ...สำหรับโครงการ DWiL (Digital Work-integrated Learning) เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจ ตอนเช้าเรียนรู้ทฤษฎีตอนบ่ายทำงาน E-Commerce บนโลกออนไลน์น่าสนุกมากๆ เรียนแล้วมีรายได้ประจำทุกเดือนด้วย ทำให้ได้รับรู้อะไรใหม่ๆ ที่เป็นช่องทางการตลาดที่คนรุ่นใหม่พลาดไม่ได้"
สำหรับหนุ่มหัวใจดิจิตอล วัย 21 ปี ชวกร แก้วมุกดา มีความชื่นชอบและใฝ่เรียนรู้ตลาด Digital Marketing มานานแล้ว "แรกๆ ผมเรียนรู้ด้วยตนเอง เมื่อเข้ามาเรียนอย่างจริงจัง ก็เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แล้วหาเวลาว่างเรียนรู้ด้านไอทีตลอดเวลา แล้วได้ไปฝึกงานที่เน็ตดีไซน์ ทำให้ได้ความรู้มาต่อยอดมากยิ่งขึ้น งานก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ...เรียนครึ่งวัน อีกครึ่งวันทำงาน ทำให้ได้พัฒนาไปอีกระดับ สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ จากรายได้ 5 พันไปเป็นหมื่น บางเดือนได้เป็นแสน เรียกว่ามันเวิร์คมากๆ ครับ ผมจึงอยากจะบอกน้องๆ ว่าเมื่อความคิดเปลี่ยน การกระทำจะเปลี่ยน แล้วผลลัพท์จะเปลี่ยนไป คุณสามารถจะเลือกเส้นทางของตนเอง ต้องตั้งใจและพยายามทำ ผมการันตีเรื่องมีรายได้แน่นอน คุณจะเลือกเรียนต่อ หรือเข้าสถานประกอบการ หากมีงานประจำทำไป แล้วเอาช่วงเวลาว่างมาหารายได้เพิ่มขึ้นได้อีกได้หลายทาง อยู่ที่คุณจะเลือกเดิน"
อีกทางเลือกของการเรียนรู้สู่สาขาที่ใช่ อาชีพที่ชอบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 'โครงการ DWiL 'วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) โทร. 095 251 7035 / www.itmfamily.com 'Success you can touch' ความสำเร็จที่คุณสัมผัสได้สู่ผู้ประกอบการใหม่หรือเถ้าแก่น้อย...โอกาสรอคุณอยู่!