กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--คิปส์ คอมมูนิเคชั่น
พื้นที่ในทำเลรอบๆ สวนลุมพินี ถนนวิทยุ ชิดลม เพลินจิต และในซอยร่วมฤดีเป็นทำเลที่เรียกได้ว่ามีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทยที่มีการซื้อขายกันจริง เพราะที่มีการซื้อขายกันไปล่าสุดในปีพ.ศ.2558 อยู่ที่ตารางวาละ 1.9 ล้านบาทและเป็นทำเลที่มีราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เพราะในทำเลใกล้เคียงกันแถวๆ หัวมุมถนนเพลินจิตและวิทยุมีการซื้อขายกันในราคาตารางวาละ 900,000 บาทต่อตารางวาในปีพ.ศ.2549 เรียกว่าขึ้นกันเป็นล้านบาทในเวลา 10 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นคอนโดมิเนียมในทำเลแถวนี้จึงมีราคาค่อนข้างสูงโดยเฉพาะโครงการที่เปิดขายในช่วงปีพ.ศ.2558 เป็นต้นมา
คอนโดมิเนียมที่เปิดขายในพื้นที่ ณ สิ้นปีพ.ศ.2559 มีทั้งหมดประมาณ 8,486 ยูนิตและขายไปได้มากกว่า 90% มีคอนโดมิเนียมเหลือขายอยู่ม่มากแล้ว ณ ปัจจุบันและเป็นโครงการที่สร้างเสร็จเกือบทุกโครงการทำให้ราคาขายในพื้นที่นี้ค่อนข้างสูง มีหลายโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตร และขึ้นไปถึงมากกว่า 550,000 บาทต่อตารางเมตร โครงการที่เปิดขายในปีพ.ศ.2559 – 2560 เปิดขายกันที่มากกว่า 350,000 บาทต่อตารางเมตร ทั้งที่ก่อนหน้านี้สัก 5 ปีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 140,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น สาเหตุสำคัญที่มีผลต่อราคาขายคอนโดมิเนียมคือราคาที่ดินที่สูงขึ้นเพราะมีที่ดินเหลือไม่มากและพื้นที่นี้เป็นทำเลที่มีศักยภาพมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ไม่ไกลจากศูนย์การค้าและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ในอนาคตยังจะมีศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ของกลุ่ม BDMS ที่บริเวณโรงแรมปาร์คนายเลิศในปัจจุบัน เส้นทางรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดินเรียกว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทำให้ทำเลนี้มีทั้งชาวไทย และต่างชาติเลือกเป็นที่พักอาศัยทั้งในรูปแบบของการเช่าอพาร์ทเม้นต์ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ คอนโดมิเนียม และโรงแรม ไปจนถึงการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อเป็นที่พักอาศัยในระยะยาว
โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในทำเลนี้จึงได้รับความสนใจและมีอัตราการขายที่ค่อนข้างสูงแม้ว่าราคาขายคอนโดมิเนียมจะสูงมากเช่นกัน แต่อาจจะมีโครงการเปิดขายไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิทเพราะราคาที่ดินที่สูงมากจึงทำให้มีผู้ประกอบการไม่กี่รายเข้ามาซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการในทำเลนี้