กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--บลจ.บัวหลวง
คณะกรรมการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งให้นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดาให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งซีอีโอ หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) โดยการแต่งตั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป
ในการปรับโครงสร้างครั้งนี้ ถือว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญของกองทุนบัวหลวงที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือ และความสามารถ ให้รับไม้ต่อจากคุณวรวรรณเพื่อนำพาบริษัทไปสู่ความเจริญเติบโต อย่างยั่งยืนในอนาคต
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติให้เลื่อนตำแหน่งคุณวรวรรณ ธาราภูมิ จากซีอีโอไปเป็น ประธานกรรมการบริหาร (Chairman of Executive Board) มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในนโยบายภาพกว้างของกองทุนบัวหลวง
"ดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างราบรื่นที่กองทุนบัวหลวง เราจำเป็นต้องมีคนรุ่นใหม่ที่เพียบพร้อมด้วยความรู้และความสามารถที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจ ขยายฐานลูกค้า และนำพาองค์กรไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่อีกยุคอย่างรวดเร็ว" คุณวรวรรณ กล่าว
สำหรับตำแหน่งซีอีโอใหม่นี้ นายพีรพงศ์จะรับผิดชอบในการวางยุทธศาสตร์ของบริษัททั้งหมด และดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ เพื่อว่ากองทุนบัวหลวงจะยังคงรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมกองทุนรวมของประเทศต่อไป
ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นซีอีโอ นายพีรพงศ์มีตำแหน่งเป็น Chief Investment Officer ของกองทุนบัวหลวง โดยรับผิดชอบนโยบายการลงทุนทั้งหมด
นายพีรพงศ์กล่าวว่า รู้สึกยินดี และขอขอบคุณคณะกรรมการ และผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมทั้งเพื่อนร่วมงานที่ให้ความไว้วางใจให้เข้ามารับผิดชอบเป็นผู้นำขององค์กร ถ้าจะว่าไปแล้ว กองทุนบัวหลวงจะไม่มาถึงจุดในปัจจุบันนี้ ถ้าหากว่าไม่มีคุณวรวรรณ และเพื่อนร่วมงานที่ช่วยบุกเบิก และวางรากฐานให้บริษัทได้เจริญเติบโตก้าวหน้าอย่างมั่นคง
"มันเป็นเรื่องท้าทายที่จะนำพาองค์กรให้เติบโตไปข้างหน้า และถ้าพูดโดยส่วนตัวแล้ว มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะนำพาบริษัทให้ประสบความสำเร็จอย่างที่คุณวรวรรณได้ทำไว้ จากผลประกอบการกำไรสุทธิเพียงหนึ่งหมื่นบาทในปีแรกที่คุณวรวรรณเข้ามาร่วมงานเมื่อปี 2545 มาจนมีกำไรถึง 1,000 ล้านบาท ในปี 2559" นายพีรพงศ์ กล่าว
ด้วยการสนับสนุนของบอร์ดและทีมงานทุกคน นายพีรพงศ์ กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำพาองค์กรให้มีความก้าวหน้า รักษาความเป็นผู้นำ และมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ให้อุตสาหกรรมกองทุนพัฒนาต่อไป
นายพีรพงศ์ กล่าวว่า หลักในการบริหารจะเน้นเรื่องทีมเวิร์ก โดยจะเปิดโอกาสให้พนักงาน และเพื่อนร่วมงานได้สามารถแสดงความรู้และความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะว่าธุรกิจจัดการกองทุนเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยบุคคลากร
ณ สิ้นปี 2559 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวงมีกองทุนรวมที่บริหารอยู่ 77กองทุน โดยมีมูลค่ารวมที่ 634,438 ล้านบาท กองทุนบัวหลวงมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 13.50% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมกองทุนรวมที่มีการแข่งขันสูง และมีผู้เล่นทั้งหมด 22 บริษัท
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริหารอยู่ 96,735 ล้านบาท และมีกองทุนส่วนบุคคลอีก 15,620 ล้านบาท รวมกองทุนที่บริหารอยู่ทั้งสิ้น 746,793 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายพีรพงศ์เคยทำงานที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ภัทรธนกิจ ในตำแหน่งวาณิชธนากร และที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) แล้วจึงมาร่วมงานกับกองทุนบัวหลวงครั้งแรกในปี พ.ศ. 2545 และครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน
นายพีรพงศ์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการเงินจาก Georgia State University และระดับปริญญาโทด้านการตลาดจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับการศึกษาตั้งแต่วัยปฐมจนถึง High School ที่ประเทศไต้หวัน