กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--BRAINASIA COMMUNICATION
ในปัจจุบันมีเด็กวัยตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงวัยมัธยมทั่วประเทศ เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังจำนวนหลายหมื่นคน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคที่มีลักษณะยืดเยื้อ มีความรุนแรง และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ บางรายอาจมีอาการของโรคกำเริบรุนแรงถึงขั้นอันตราย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระเมตตาและพระราชทานของขวัญ ตุ๊กตา นม มายังน้องๆผู้ป่วยเด็ก ณ โรงพยาบาลศิริราช ดุจกระแสธารความรักความห่วงใยต่อประชาชนวัยเยาว์เหล่านี้ จวบจนทรงเสด็จสู่สวรรคาลัยท่ามกลางความเศร้าโศกาดูรทั่วแผ่นดินไทย
การจัดงาน" พลังแห่งรักแด่น้องผู้ป่วยเด็ก...น้อมรำลึกในหลวง รัชกาลที่ 9" ในปีนี้ ด้วยความร่วมมือจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) และบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เหล่าจิตอาสาจากหลายองค์กร ณ หน่วยพัฒนาการเด็ก งานการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช ร่วมกันเติมพลังใจให้กันและกันในการต่อสู้กับโรคภัยอย่างอุ่นใจ
ภายในงานมีน้องน้อย คุณพ่อคุณแม่กว่า 300 คน สุขสดใส สนุกสนานและร่วมกิจกรรมที่เปี่ยมความหมาย ร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา จินตลีลาเพลงใกล้รุ่งและเพลงต้นไม้ของพ่อ โดยเหล่านักเรียน ทีมนักศึกษา จิตอาสามาพร้อมหุ่นยนต์กรั๊บบอต แสนน่ารักจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. มาสร้างความตื่นตาตื่นใจ ทักทาย แจกของขวัญ จุดประกายให้น้องๆ มาเป็นนักคิดนักสร้างสรรค์ให้โลกนี้น่ารักและน่าอยู่, เกมพาเพลิน ลูกโป่งดัดแฟนซี, คณะMommy Puppets สอนทำหุ่นนิ้ว เสริมสร้างจินตนาการให้แก่น้องผู้ป่วย สามารถนำไปประดิษฐ์และเชิดหุ่นนิทานเองก็ได้ง่ายจัง, สอนเพ้นท์ทำหน้ากากการ์ตูนจอมพลัง, ชวนน้องร้องเพลงและออกกำลังกาย ต่อด้วยเกมสุขกายสุขใจ จากพี่ๆทีมพยาบาลกุมารเวชศาสตร์
รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า โรคเรื้อรังในเด็กมีผลให้เด็กต้องมารับการรักษาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องตามอาการและตามกำหนดการรับการรักษาของแพทย์เนื่องจากมีลักษณะอาการของโรคยืดเยื้อ มีความรุนแรงและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคหัวใจ โรคไต โรคมะเร็ง และโรคทางกระดูก ป่วยแบบฉุกเฉิน ความผิดปกติทางสรีระ เช่น ลำไส้สั้น นอกจากนี้ยังมีเด็กพิการทางร่างกายอันเนื่องมาจากสมอง และออทิสติก แม้เด็กๆจะป่วยแต่ก็ต้องการความสุขตามธรรมชาติของเด็ก ความรักและความสุขทางใจมีผลดีต่อสุขภาพ รู้สึกซาบซึ้งในความทุ่มเทและความรักเอาใส่ใจของทีมแพทย์พยาบาลและครอบครัว ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อให้เด็กๆของเรามีสุขภาพที่ดีขึ้น ครอบครัวและสังคมมีความเข้มแข็งและมีความสุขไปด้วยกัน
วิไลลักษณ์ ฟุ้งธนะกุล บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เด็ก ๆ เป็นวัยที่สดใสร่าเริงและสนุกกับการเรียนรู้ เมือต้องมาพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน อาจทำให้ความสุขนั้นหายไป เราทุกคนมาเพื่อส่งต่อและแบ่งปันความรักให้เด็กๆมีกำลังใจต่อสู้กับความเจ็บป่วยที่ต้องเผชิญ ซึ่งการแสดงพลังแห่งความรัก ถ่ายทอดความรู้สึกห่วงใยทำให้เขารู้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น น้องๆ ยังมีคนอยู่ข้างๆเสมอ ทำให้ผู้ป่วยเด็กรู้สึกดี มีความอุ่นใจที่จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ เปลี่ยนความท้อแท้เป็นความเข้มแข็ง เปลี่ยนความเครียดมาเป็นรอยยิ้ม เปลี่ยนความอึดอัดซึมเศร้ามาเป็นสันทนาการและความคิดสร้างสรรค์ ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆหายป่วยในเร็ววัน และกลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติ มีความขยัน อดทน ปฏิบัติตนเป็นคนดีตามคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9
แสงนวล สุวรรณดี หรือ น้องนวล หนึ่งในผู้ป่วยเด็ก กล่าวว่า ดีใจมากค่ะ ที่พี่ๆ มาให้กำลังใจ แต่มีเพื่อนๆอีกหลายคนที่มาร่วมงานไม่ได้ ยังต้องนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง ของขวัญชิ้นเล็กๆหรือกิจกรรมที่เกิดขึ้น มีความหมายกับเด็กผู้ป่วยอย่างมาก ในปีนี้หนูตั้งใจว่าอยากจะทำอะไรใหม่ๆในชีวิต ในอนาคตหนูอยากเป็นพยาบาลแบบพี่พยาบาลที่คอยดูแลหนู เพราะจะได้ช่วยเหลือคนอื่นให้หายจากความเจ็บป่วย ถ้าคุณหมอและพยาบาลไม่พอ เด็กๆและคนไข้ก็จะลำบากมาก หนูนึกถึงคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่สอนให้คนในสังคมช่วยเหลือกัน มีความรักสามัคคีกัน เพื่อสังคมไทยจะได้น่าอยู่ตลอดไปค่ะ
ด.ญ.ชัญญา น้ำแก้ว หรือ น้องขมิ้น หนึ่งในเด็กนักเรียนจิตอาสา กล่าวว่า ดีใจค่ะที่ได้มาช่วยสร้างความสุขให้กับเพื่อนๆ พี่ๆที่ป่วยอยู่ อยากให้พวกเขาหายป่วยเร็วๆ จะได้กลับมาอยู่กับครอบครัวและไปโรงเรียนตามปกติ ในอนาคตหนูอยากเป็นหมอทหารค่ะ ได้ใส่ชุดเครื่องแบบสง่างาม ช่วยเหลือคนที่บาดเจ็บหรือป่วยไข้ พวกเขาจะได้ไม่ทนทุกข์ หนูนึกถึงคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องการประหยัด อดออม หนูเอาเงินไปโรงเรียนวัน 20 บาท มีเงินกลับบ้านมาหยอดกระปุกวันละ 5 - 10 บาท ทำให้มีเงินไว้ซื้อของที่หนูอยากได้ โดยที่ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ค่ะ
กุลนรา มณีคันธ์วงษ์ หรือ บู้ จิตอาสาในทีมดัดลูกโป่งแฟนซี หลากสีสันสดใสที่น้องๆชอบใจ กล่าวว่า การได้มาช่วยงานในวันนี้รู้สึกอิ่มเอมใจ ที่ได้เห็นน้องผู้ป่วยได้รับสัมผัสความเกื้อกูล สนุกสนานเพลิดเพลินกับสิ่งที่พยาบาลและผู้มีอุปการะคุณมอบให้ ขอให้น้องๆหายป่วยเร็วๆ กลับมาสดใสร่าเริง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ พร้อมกันนี้จะน้อมนำคำสอนของในหลวง ในเรื่องความขยันและการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ปฏิบัติตนอยู่ในความไม่ประมาท รอบคอบ ทำให้สังคมมีระเบียบและสงบสุขค่ะ
ชฎาพร ขาวล้ำเลิศ หรือ แตงโม นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า งานในวันนี้สะท้อนถึงน้ำใจของคนไทยที่เผื่อแผ่มายังชีวิตน้อยๆที่กำลังเติบโต เมื่อเรามีโอกาสได้ตอบแทนสังคมให้ดีที่สุด ช่วยพยุงให้น้องๆได้ก้าวเดินไปข้างหน้า พัฒนาศักยภาพและช่วยเหลือตนเองได้ สามารถต่อยอดไปช่วยเหลือสังคมให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นด้วย วันหนึ่งข้างหน้าน้องๆเหล่านี้ก็จะได้ช่วยเหลือผู้อื่นได้ตามกำลัง ดังพระบรมราโชวาทของในหลวง รัชกาลที่ 9 "สังคมใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิต มิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่"
นับเป็นพลังแห่งรักที่ยิ่งใหญ่ที่คนไทยมีให้กันละกัน ผลิบานในหัวใจของผู้ให้และผู้รับเสมอ