กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--บริษัท อินเทล คอร์ปอเรชั่น
กรุงเทพฯ, 1 มีนาคม 2543 - บริษัท อินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถสนับสนุนระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดว์ส* 2000 ได้แล้ว หลังจากที่อินเทลและบริษัท ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมมือกันพัฒนาเพื่อให้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 สามารถทำงานร่วมกับแพล็ตฟอร์มที่ใช้เพนเทียม ทรี และ เพนเทียม ทรี ซีออน โปรเซสเซอร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้การใช้งานร่วมกันระหว่างเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นสถาปัตยกรรมอินเทล และคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้เพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ ร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 จะทำให้ได้ระบบประมวลผลที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับการใช้งานด้านอินเตอร์เน็ตซึ่งพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็ยังง่ายต่อการใช้รันแอพพลิเคชั่นและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอี-บิซิเนส
"การนำสถาปัตยกรรมอินเทลและระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 ของไมโครซอฟท์ มาใช้ร่วมกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาระบบในอนาคต ความคุ้มค่า และทางเลือกในการใช้โซลูชั่นได้อย่างหลากหลาย" นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "อินเทลทุ่มเทในการพัฒนาเพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ระบบทั้งสองร่วมกันเช่นนี้จะให้โซลูชั่นที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่กำลังมองหาโซลูชั่นใหม่ๆ สำหรับระบบอี-บิซิเนส"
- 2 -
"การผนวกระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 เข้ากับสถาปัตยกรรมอินเทลทั้งในคอมพิวเตอร์แบบพกพา ตั้งโต๊ะ หรือเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง จะทำให้ได้แพล็ตฟอร์มที่มีการประมวลผลยอดเยี่ยมเหมาะสำหรับบริษัทต่างๆ ที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ระบบอินเตอร์เน็ต" มร. บิล เกตส์ ประธานและหัวหน้าฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทไมโครซอฟท์ กล่าว "การทำงานร่วมกันระหว่างผลิตภัณฑ์วินโดว์ส 2000 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้เพนเทียม ทรี ซีออน โปรเซสเซอร์ จะให้ประสิทธิภาพที่เยี่ยมยอดและคุ้มค่าที่สุดสำหรับระบบอี-บิซิเนส ที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งความสามารถในการพัฒนาสำหรับการเติบโตที่จะมีต่อไปในอนาคตด้วย"
เซิร์ฟเวอร์ เวิร์กสเตชั่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และคอมพิวเตอร์พกพาที่ใช้สถาปัตยกรรมอินเทลเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมอินเทลร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 จะให้ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าที่เหนือกว่าแก่ระบบอี-บิซิเนสในปัจจุบัน โดยจะทำให้นักเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถขยายประสิทธิภาพของระบบทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งจะทำให้แพล็ตฟอร์มมีความสามารถในการรับข้อมูลเพิ่มเติมและมีความคล่องตัวในการใช้งานในขณะเดียวกัน
ทั้งนี้อินเทลและไมโครซอฟท์ได้พยายามผลักดันมาตรฐานของอุตสาหกรรมให้สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเซิร์ฟเวอร์ที่สำคัญๆ ทั้งในด้านความแน่นอนเชื่อถือได้ ความสามารถในการจัดการ และความสามารถในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้เซิร์ฟเวอร์สามารถทำงานอย่างต่อเนื่องได้ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างไม่มีปัญหา
ผลิตภัณฑ์ IA-64 ของอินเทลที่กำลังจะออกสู่ตลาด จะเสริมกันกับผลิตภัณฑ์ IA-32 ทั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาสถาปัตยกรรมอินเทลสู่ความก้าวหน้าอีกระดับหนึ่งในการสร้างสรรค์ระบบพื้นฐานสำหรับเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชั่นสำหรับอินเตอร์เน็ต
เพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ และ เพนเทียม ทรี โปรเซสเซอร์ชนิดพกพาความเร็วสูง ที่สร้างด้วยเทคโนโลยี SpeedStep ของอินเทล ผนวกกับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 จะให้ประสิทธิภาพที่ตอบสนองต่อความต้องการของระบบอี-บิซิเนสในปัจจุบัน
วินโดว์ส 2000 เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกของวินโดว์ส เอ็นที ที่สามารถสนับสนุนการทำงานของคอมพิวเตอร์พกพา ซึ่งจะทำให้ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทต่างๆ มีระบบปฏิบัติการเดียวที่ใช้เป็นมาตรฐานได้ทั้งองค์กร ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือคอมพิวเตอร์พกพา
- 3 -
ผลิตภัณฑ์เครือข่ายอินเทลแมเนจเมนท์และเซิร์ฟเวอร์อะแด็บเตอร์ รุ่นอินเทล PRO/100S สนับสนุนการทำงานของ Internet Protocol Security (IPSec) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่ได้รับการยอมรับให้เป็นระบบมาตรฐานสำหรับอี-บิซิเนส อะแด็ปเตอร์ของอินเทลที่ทำงานร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัย IPSec ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 ของไมโครซอฟท์ ซึ่งจะเป็นระบบปฏิบัติการแรกที่มี IPSec ทั้งนี้วินโดว์ส 2000 จะช่วยลดภาระการประมวลผลด้านการรักษาความปลอดภัยในหน่วยประมวลผลกลาง (ซีพียู) ของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ด้วยการผลักภาระงานด้านการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายไปที่อะแด็ปเตอร์ PRO/100S
ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์สำหรับระบบสื่อสารของอินเทลแผนกไดอะลอจิกของอินเทลกำลังเชื่อมโยงระบบสื่อสารเข้ากับเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยการใช้ modular building block และยังทำให้บรรดา ISVs, OEMs และผู้ให้บริการสื่อสาร สร้างสรรค์โซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพที่จะสามารถนำระบบสื่อสารโทรคมนาคมเข้ามาใช้ในงานธุรกิจ การผสมผสานระหว่าง Dialogic computer telephony (CT) สถาปัตยกรรมอินเทล และ ซอฟท์แวร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ซีที มีเดีย กับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 จะช่วยเร่งการพัฒนาและการใช้ระบบ ซีที แบบเปิดต่างๆ (open CT system) ที่จะทำให้มีการนำโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพมาใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ระบบสามารถรวมสัญญาณเสียงและสัญญาณข้อมูลเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับโซลูชั่นเพื่อระบบอี-บิซิเนส อย่างแท้จริง
ปฏิบัติการในส่วนของอินเทลในการนำวินโดว์ส 2000 มาใช้งานอินเทล เป็นหนึ่งในองค์กรสำคัญที่เข้าร่วมในโครงการพัฒนาระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 มาเป็นเวลากว่าสองปี ในการเตรียมการเพื่อนำระบบปฏิบัติการนี้ออกสู่ตลาด อินเทลได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 ในการรันบนคอมพิวเตอร์รุ่นต่างๆ กว่า 100 ระบบ รวมทั้งเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากกว่า 20 รุ่น จนสามารถรับรองว่าระบบปฏิบัติการนี้จะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพทันทีที่วางจำหน่าย อินเทลจะเริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกสู่ตลาดเป็นระยะๆ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2543
"วินโดว์ส 2000 เป็นระบบปฏิบัติการที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธมากสำหรับอินเทลในงานธุรกิจทุกด้าน" นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กล่าว "ระบบปฏิบัติการของเซิร์ฟเวอร์ เมื่อใช้ร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ที่ใช้สถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงของอินเทล จะเป็นแพล็ตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ของระบบอี-บิซิเนส และองค์กร นอกจากนี้
- 4 -
ประสิทธิภาพใหม่สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์พกพายังจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลงานของพนักงานอีกด้วย"
ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 2000 ยังสามารถสนับสนุนบริการเครือข่ายต่างๆ ที่จะเป็นกลไกสำคัญสำหรับระบบอี-บิซิเนส ของอินเทล รวมทั้งแอ็พพลิเคชั่นสำหรับองค์กร และระบบการทำงานต่างๆ นอกจากนี้ Active Directory Service ระบบรักษาความปลอดภัยที่ละเอียดถี่ถ้วน การควบคุมคอนฟิกูเรชั่นที่มีประสิทธิภาพกว่า และการกระจายซอฟต์แวร์ ก็จะเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอินเทลด้วย
อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบเครือข่ายและอุปกรณ์สื่อสารด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำนำสมัย ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทลได้ที่เว็บไซด์ http://www.intel.com/th/thai
* เครื่องหมายและยี่ห้อเหล่านี้เป็นสมบัติของผู้เป็นเจ้าของ--จบ--