กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี หรือ AGE แจ้งผลการดำเนินงาน งวดปี2559 โชว์รายได้ แตะ 4,645 ล้านบาท ปริมาณการขายถ่านหิน 2.36 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 17.72% กำไรสุทธิ 153.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% " พนม ควรสถาพร" ประธานกรรมการบริหาร สั่งลุยเดินหน้าขยายตลาดส่งออกใน จีน – เวียดนาม เพิ่ม พร้อมปรับกลยุทธ์ใหม่ เน้นกระจายรายได้เพิ่ม จากธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเรือ หวังดันรายได้ปี 2560 เติบโตตามเป้าที่วางไว้ 25-30 % บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผล 0.07 บาทต่อหุ้น
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2559 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 4,644.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 153.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 110.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.1%
โดยปริมาณการขายถ่านหินในปี 2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินเป้าหมายที่วางไว้โดยเติบโต 17.72% อยู่ที่ 2.36 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขายถ่านหินอยู่ที่ 2 ล้านตัน จากแผนการขยาย ยอดขายทั้งใน และต่างประเทศ ตลาดจีน และเวียดนามยังคงเป็นตลาดต่างประเทศหลัก โดยมาตรการจำกัดวันทำงานของเหมืองในประเทศจีน ส่งผลให้การนำเข้าถ่านหินในประเทศจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาถ่านหินโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง ไตรมาสที่ 4/59 ทั้งนี้ บริษัทยังคงมองว่า ความต้องการใช้ถ่านหินโลกยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
" ปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัท เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ และปริมาณการขายถ่านหินเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10% จากกลยุทธ์การขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จทำให้ปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มขึ้น 17.72% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปีนี้บริษัทเริ่มขายไปใต้หวันเป็นปีแรก และเริ่มขยายตลาดในประเทศเวียดนาม ส่วนตลาดถ่านหินในจีนเริ่มส่งสัญญานปรับตัวดีขึ้น จากมาตรการจำกัดวันทำงานของเหมืองในประเทศจีนและการปิดเหมืองที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้จีนมีการนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้นและส่งผลให้ราคาถ่านหินโลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจบริการคลังสินค้าและท่าเรือ " นายพนม กล่าว
นอกจากนี้ ที่มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2560 มีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา0.07 บาท/หุ้น บริษัทกำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 24 มี.ค. 2560 และให้รวบรวมรายชื่อด้วยวิธีปิดสมุดทะเบียน ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 27 มี.ค. 2560และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 16 พ.ค. 2560
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทตั้งเป้าปริมาณยอดขายถ่านหินในปี 2560 เติบโตเพิ่มขึ้น 25-30% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่ทำได้ 2.36 ล้านตัน เนื่องจากบริษัท เดินเกมรุก ในการบุกตลาดส่งออกไปในประเทศจีน และ เวียดนาม เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งยังได้ศึกษาตลาดส่งออกในต่างประเทศแห่งใหม่ เพิ่มขึ้นด้วย
ในปี 2560 บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตจากปริมาณการขายถ่านหินที่ 25-30% โดยมาจากการขยายตลาดในประเทศจีน และเวียดนามเพิ่มขึ้น และตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากการให้บริการในคลังสินค้า ขนสินค้าผ่านท่าเรือ และให้บริการขนส่งทางน้ำแบบครบวงจร นอกเหนือจากรายได้จากการขายถ่านหินโดยบริษัทได้มีการขยายกำลังการผลิต โดยการก่อสร้างโรงงานคัดร่อนเพิ่มเติม เพื่อการรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและ เพื่อเพิ่มการรองรับ การให้บริการจากคลังสินค้าอีกด้วย ในส่วนของรายได้จากการให้บริการท่าเรือ ในปี 2560 บริษัทได้เพิ่มการบริการ การขนส่งทางน้ำ จากการให้บริการเรือเทกองขนส่งสินค้า จำนวน 8 ลำ ซึ่งบริษัทได้เริ่มดำเนินการจัดหาในช่วงปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปี 2560 ในส่วนของท่าเรือในปีนี้บริษัทมีโครงการปรับปรุงท่าเรือ เพื่อรองรับการให้บริการด้านการขนส่งสินค้าผ่านท่าเพิ่มขึ้นและมีพัฒนาระบบในการดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างเสร็จในปี2560 บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารงานอย่างมีความรับชอบต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
" บริษัทตั้งเป้าการเติบโตจากปริมาณการขายถ่านหินที่ 25-30% จากแผนขยายตลาดในจีนและเวียดนาม และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการ คลังสินค้า และท่าเรือ โดยปีนี้บริษัทจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้การขนส่งทางน้ำเพิ่มจากกองเรือเทกอง อีกด้วย มองว่ารายได้จากธุรกิจการบริการจะช่วยเสริมให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้เมื่อเดือนมกราคม 2560 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติ การซื้อที่ดินเพิ่มเติมในบริเวณติดกับคลังสินค้า จำนวน 112 ไร่ เพื่อพัฒนาและขยายโครงการคลังสินค้าให้ดียิ่งขึ้น" นายพนม กล่าว