กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--ทีวี ไดเร็ค
TVD โชว์ฟอร์มสวยปี 59 พลิกมีกำไรสุทธิ 14.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.36 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 40.61 ล้านบาท เหตุผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "ทรงพล ชัญมาตรกิจ" มั่นใจปี 60 รายได้รวมแตะ 3.9 พันลบ. เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน และวางเป้า Net Profit Margin อยู่ที่ 3% หลังวางกลยุทธ์ลุยงานเต็มสตรีม-ยอดขายเพิ่มต่อเนื่อง
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2559 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.36% จากปี 2558 ที่ขาดทุน 40.61 ล้านบาท และมีรายได้รวม 3,435.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.24% จากปี 2558 ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,061.15 ล้านบาท
"บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2560 ไว้ที่ 3.9 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน ในปีนี้ a TVD Company มีการเปลี่ยนแปลงบริษัทลูกจากเดิม บริษัท เจเอ็มแอล ไดเร็ค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกขายสินค้าผ่านจอวีดีโอในร้านค้าปลีก เปลี่ยนเป็น บริษัท ลาสไมล์ ไดเร็ค จำกัด ดำเนินธุรกิจการจัดส่งสินค้าถึงบ้านเต็มรูปแบบ พร้อมให้ด้านโลจิสติคส์ การบริการขนส่งและกระจายสินค้าภายในประเทศแบบทั่วไป เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท และรองรับออเดอร์การสั่งซื้อสินค้าของทั้งบริษัทในเครือ พร้อมให้บริการแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดส่งสินค้าภายในระยะเวลา 1-5 วัน ทั้งประเทศ การจัดส่งสินค้าโดยการเก็บเงินสดและบัตรเครดิต สามารถจัดส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูงได้ มีการประกอบสินค้าให้ความรู้ในการใช้สินค้าหรือแนะนำสินค้าในเบื้องต้น สามารถจัดส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ได้ แนะนำการบริการหลังการขายในเบื้องต้น และมีบริการรับคืนสินค้า นับเป็นการดึงศักยภาพขององค์กรที่มีประสบการณ์ด้านการส่งสินค้าและเก็บเงินสดมากว่า 17 ปี"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็น emerging market ประเทศเราจึงมีลูกค้าหลากหลายลักษณะทั้ง Offline และ Online ดังนั้นบริษัทฯ จะยังคงเน้นการทำธุรกิจแบบ Multiscreen ด้วยการจัดจำหน่ายสินค้าหลักผ่าน 3 ช่องทางหลัก ซึ่งประกอบด้วย
1.Direct Shopping เป็นการขายสินค้าผ่านช่องทางทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี แค็ตตาล็อก และไดเร็กต์เมล์ เป็นต้น ซึ่งปีนี้การเติบโตของ Digital TV เริ่มเข้าที่ทั้งคุณภาพและปริมาณผู้ชม บ.จึงจะขยายงบโฆษณาเพิ่มมากขึ้น และมั่นใจว่าการโฆษณาจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2.Online Shopping เป็นการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชั่น ปรับปรุงเว็บไซต์ ช่องทางขายผ่านโซเชียลมีเดีย ที่ผ่านมาดราเน้นหนักเรื่อง Online Shopping ปีนี้เราเริ่ม Online Marketing ซึ่งเป็นไปตามแผนสร้าง service model infrastructure ให้แก่องค์กรเพื่อรับงานจากภายนอกต่อไป
3.Retail Shopping เป็นการจำหน่ายสินค้าผ่านร้านทีวี ไดเร็ค โชว์เคส นอกจาก แผนการขยายสาขาเพิ่มเติม เพราะได้ Business Model ที่ทำกำไรได้แล้วบริษัทฯ จะเริ่ม Integrate ระบบ O2O (Online to Offline) พร้อมการปรับ Look ของร้านใหม่ ตอบสนองกลุ่มลูกค้าใหม่จาก Online กลายเป็นร้านค้าปลีก 4.0
และสำหรับความร่วมมือจาก บริษัท ไตร-สเตท อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น (Tri-Stage) เพื่อจะสร้างรายได้จากการให้บริการธุรกิจไดเร็คมาร์เก็ตติ้งแบบครบวงจร เช่น ทำสื่อ ซื้อสื่อ วางสื่อ บริการคอลเซ็นเตอร์ คลังสินค้า การส่งของ ระบบการชำระเงิน พร้อมระบบการวิเคราะห์ เพื่อผลักดันให้ Net Profit Margin เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 3% ในปี 2560