เขตพระนครร่วมกับหลายหน่วยงานกำหนดมาตรการป้องกันคนเร่ร่อนใช้สนามหลวงเป็นที่หลับนอน

ข่าวทั่วไป Tuesday July 10, 2001 11:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--กทม.
นายประเสริฐ ทองนุ่น ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม.เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครโดยสำนักงานเขตพระนครได้ประชุมร่วมกับหลายหน่วยงาน อาทิ องค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง กรมประชาสงเคราะห์ และหน่วยงานราชการที่มีสถานที่ตั้งบริเวณใกล้เคียงท้องสนามหลวง เพื่อกำหนดมาตรการควบคุมการใช้พื้นที่ท้องสนามหลวง เพื่อป้องกันบุคคลบางจำพวกใช้เป็นที่พักอาศัยหลับนอน เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดปัญหาผู้ค้าใช้พื้นที่สนามหลวงในการค้าหาบเร่-แผงลอย ปัญหาคนเร่ร่อนจรจัดใช้สนามหลวงเป็นสถานที่หลับนอนยามค่ำคืน รวมทั้งมีปัญหาการค้าประเวณีบริเวณคลองหลอด เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวในระยะยาว ที่ประชุมได้มีมติให้กทม.จัดทำประกาศกรุงเทพมหานครห้ามประชาชนเข้าไปดำเนินกิจการใด ๆ หรือหลับนอนบริเวณท้องสนามหลวง และบริเวณใกล้เคียง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.44 เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 23.00-05.00 น. ซึ่งขณะนี้ประกาศดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพิจารณาลงนาม
ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้มีมติให้รถโดยสารประจำทางที่วิ่งตลอดคืน และมีเส้นทางการวิ่งผ่านสนามหลวง เปลี่ยนจุดรับ-ส่งผู้โดยสาร โดยไม่ให้หยุดรับ-ส่ง บริเวณรอบสนามหลวง ระหว่างเวลา 23.00-05.00 น. แต่ให้เปลี่ยนมาหยุดรับ-ส่งที่ป้ายหยุดรถโดยสารประจำทางหน้าร้านศึกษาภัณฑ์ ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแทน ส่วนในเวลาปกติรถโดยสารประจำทางก็ยังคงหยุดรับ-ส่งที่ป้ายรอบสนามหลวงตามเดิม ทั้งนี้เนื่องจากที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าหากสามารถลดจำนวนประชาชนที่เดินทางเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงสนามหลวงในยามวิกาล ก็จะเป็นการลดจำนวนผู้ซื้อสินค้าหาบเร่-แผงลอย และผู้ใช้บริการหญิงขายประเวณี ทำให้ผู้ค้าหาบเร่และหญิงบริการลดจำนวนลงได้ สำหรับท่ารถโดยสารประจำทางบริเวณใกล้ท้องสนามหลวงนั้น พบว่ามีปัญหาหาบเร่-แผงลอย ปัญหาขยะ และปัญหาคนเร่ร่อนใช้ท่ารถเป็นที่หลับนอน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพจึงได้พิจารณาย้ายท่ารถโดยสารประจำทางที่อยู่รอบท้องสนามหลวง 7 สาย ได้แก่ สาย 15, 39, 59, 70, 80, 82 และ สาย 203 โดยจะทะยอยย้ายไปอยู่ที่หน้าวัดราชประดิษฐ์ ตรงข้ามกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเรื่องนี้ทางขสมก. จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบต่อไป
ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมดังกล่าวยังได้มีมติให้กรุงเทพมหานครเข้าไปจัดระเบียบการจอดรถบริเวณถนนราชินี เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีปัญหาการจราจรคับคั่งและมีบุคคลที่มิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกเก็บเงินค่าจอดรถโดยมิชอบ หากไม่จ่ายเงินก็จะทำความเสียหายให้แก่รถ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน กรุงเทพมหานครจึงได้เตรียมจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปจัดเก็บรายได้และควบคุมจัดระเบียบการจอดรถในถนนราชินี ตั้งแต่ถนนหน้าหับเผย บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถึงสะพานเจริญศรี และกำหนดห้ามจอดรถเด็ดขาด ตั้งแต่สะพานเจริญศรี ถึงสะพานผ่านพิภพลีลา
ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนบริเวณท้องสนามหลวงและพื้นที่ใกล้เคียงใน ระยาวนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น เช่น สถานีตำรวจนครบาลพื้นที่ กรมประชาสงเคราะห์ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น ซึ่งมาตรการในเบื้องต้นนั้นจะผลักดันคนเหล่านี้ออกไปจากพื้นที่ท้องสนามหลวง และบริเวณใกล้เคียงซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญให้ได้ก่อนเพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ที่ผ่านมาเขตพระนครได้เข้าไปสำรวจผู้ที่ใช้สนามหลวงเป็นสถานที่หลับนอน หากพบว่าเป็นคนเร่ร่อนจรจัด ไม่มีอาชีพก็จะประสานงานกับกรมประชาสงเคราะห์ รับตัวไปฝึกอาชีพให้ และในอนาคตก็มีแผนจะจัดหาที่พักอาศัยให้คนเหล่านี้มีที่หลับนอนเป็นกิจลักษณะ รวมทั้งทำทะเบียนประวัติให้ทราบจำนวนแน่นอนเพื่อจำกัดไม่ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สำหรับมาตรการส่งตัวกลับภูมิลำเนานั้น คาดว่าจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ได้ผล เนื่องจากคนเหล่านี้ไม่มีที่อยู่อาศัยและแหล่งทำกินที่ภูมิลำเนาเดิม เมื่อกลับไปได้ไม่นานก็จะกลับเข้ามาสร้างปัญหาในกรุงเทพมหานครอีก
ด้านนายมานะ นพพันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงการป้องกันน้ำท่วมของกทม.ได้ดำเนินการลอกท่อระบายน้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็กตามชุมชนต่าง ๆ ทั้งนี้หากเกิดภาวะฉุกเฉินที่ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวัน ทางสำนักระบายน้ำจะเร่งสูบน้ำจากคลองลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมา นอกจากนี้สำนักการระบายน้ำยังจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว 16 หน่วยให้บริการช่วงกลางวัน และอีก 8 หน่วยให้บริการช่วงกลางคืน รวมทั้งมีหน่วยช่วยเหลือ ซ่อมแซมแก้ปัญหากรณีเครื่องสูบน้ำขัดข้อง 4 หน่วย โดยแต่ละหน่วยจะกระจายการให้บริการไปตามพื้นที่เขตที่รับผิดชอบให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 02-2460317-20 ตลอด 24 ช.ม. สำหรับพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม เช่น สนามเป้า, เพชรเกษม และหน้าตลาดบางแค ทางกทม.จะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเป็นกรณีพิเศษด้วย--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ