กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและรายใหญ่ของโลกรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ 'Onetouch' ตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมปี 60 เติบโต 30% เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง เดินหน้าขยายตลาดถุงยางแบรนด์ Onetouch ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะรุ่น ซีโร่ ซีโร่ ทรี (003) ที่คาดว่าจะทำยอดขายเติบโตก้าวกระโดดในปีนี้ หลังผู้บริโภคให้การตอบรับดี พร้อมเตรียมขยายตลาดประมูลงานผลิตถุงยางหลังโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้รับรองมาตรฐานจาก UNFPA ขณะที่รายได้รวมปี 59 ชะลอตัว จากกำลังซื้อผู้บริโภคที่หดตัวลงในช่วงปลายปี ผลกระทบจากตลาดงานประมูลที่ลดลงในปีที่ผ่านมา ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 2559 จากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น
นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและรายใหญ่ของโลกรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ 'Onetouch' เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมปี 2560 ประมาณการเติบโต 30% เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนมุ่งขยายตลาดถุงยางอนามัยแบรนด์ Onetouch ในไทยและต่างประเทศ เช่น เมียนมาร์ สปป.ลาว สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ทั้งสินค้ารุ่นทั่วไปและรุ่น 'ซีโร่ ซีโร่ ทรี' (003) ที่มีความบางเพียง 0.03-0.038 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยเตรียมแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายในเวียดนามเพื่อเดินหน้ารุกขยายตลาดอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายถุงยางอนามัย Onetouch รุ่น 003 เติบโตก้าวกระโดด พร้อมรุกการทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น ได้แก่ การนำสินค้าตัวอย่างไปแจกให้แก่ลูกค้าเป้าหมายเฉพาะในสถานที่ต่าง ๆ การทำตลาดในวงกว้างผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ อาทิ Youtube Facebook รวมถึงการทำโฆษณาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวถุงยางอนามัย Onetouch รุ่นใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในปีนี้ เช่น รุ่นขนาด 56 มิลลิเมตรที่เหมาะกับชาวต่างชาติ
ขณะที่ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) บริษัทฯ มีแผนจะร่วมมือกับลูกค้าในปัจจุบันเพื่อพัฒนาสินค้าและช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมทั้งจะเจรจาขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ในต่างประเทศ และจะขยายตลาดประมูลงานผลิตถุงยางอนามัยจากปัจจุบันที่ได้รับงานประมูล (Tender) ผลิตถุงยางอนามัยให้แก่องค์กร USAID ในปีนี้แล้วคิดเป็นจำนวนประมาณ 350-400 ล้านชิ้น โดยล่าสุดโรงงานของ TNR ที่อยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีกำลังผลิตติดตั้ง 426 ล้านชิ้นต่อปี เพิ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กร UNFPA นอกจากโรงงานของบริษัทฯ ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จังหวัดชลบุรีที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานดังกล่าวอยู่แล้วเช่นกัน ทำให้บริษัทฯ มีสิทธิเข้าร่วมประมูลงานผลิตถุงยางอนามัยจากหน่วยงานดังกล่าวได้มากยิ่งขึ้น
"ปัจจุบันแบรนด์ Onetouch มีส่วนแบ่งตลาดถุงยางอนามัยในประเทศไทยอยู่ที่ 20% เราตั้งเป้าหมายปี 2563 จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 35% โดยปีนี้เราคาดหวังเห็นแบรนด์ Onetouch รุ่นทั่วไปและรุ่น 003 เติบโตได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากเทรนด์ของถุงยางอนามัยจะเน้นความบางมากขึ้น ขณะที่การประมูลงานผลิตถุงยางอนามัยก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้" นายอมร กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TNR กล่าวว่า ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,200 ล้านบาท ชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายและธุรกิจงานประมูลที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะยอดขายสินค้าแบรนด์ Onetouch ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยมีอัตราเติบโตสูงถึง 60% จากปีก่อน ซึ่งมาจากการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น การวางกลยุทธ์มุ่งเน้นการขายสินค้าแบรนด์ Onetouch และทำกิจกรรมการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ขณะที่รายได้จากธุรกิจ OEM ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงาน 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2559จากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 9 มีนาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2560