กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กระทรวงแรงงาน โดย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการดึงสถานประกอบกิจการในพื้นที่กว่า ๙๐ แห่ง ร่วมเป็นเครือข่ายจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ส่งเสริมการออมปลดหนี้นอกระบบให้ลูกจ้าง พร้อมเสริมสร้างแรงงานสัมพันธ์ที่ดี
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบนโยบายให้กสร.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการนอกเหนือกฎหมายให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง โดยน้อมนำศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและด้านการสหกรณ์มาใช้ในการจัดสวัสดิการด้านเศรษฐกิจให้กับ
ลูกจ้างสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งประโยชน์ในการสร้างเสริมวินัยในการใช้จ่ายและเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการออม
ซึ่งเป็นหลักประกันในอนาคตให้กับพนักงาน รวมถึงกรณีที่มีความขัดสนเรื่องค่าใช้จ่ายก็สามารถจะกู้ยืมเงินผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกันและเสียดอกเบี้ยในอัตราถูกซึ่งจะเป็นหนทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบให้กับลูกจ้างได้อีกทางหนึ่ง
ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการที่จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์แล้ว ๕๔๐ แห่ง และในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ตั้งเป้าหมายจะส่งเสริมให้มีการจัดตั้งอีก ๓๐ แห่ง ซึ่งมีสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการแจ้งความจำนงแล้ว ๘ แห่ง รวมถึงสถานประกอบกิจการอื่น ๆ ในจังหวัดที่ให้ความสนใจ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับสถานประกอบกิจการที่แจ้งความจำนงและที่สนใจให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและ
มีแนวทางในการจัดตั้งและดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ให้ได้ผลอย่างยั่งยืน กสร.ได้จัดประชุมภาคีแรงงาน โดยเชิญนายจ้างลูกจ้างจากสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน ๙๑ แห่ง เข้าร่วมประชุมเรื่อง การจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านแรงงานขึ้น ในวันอังคารที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ณ ห้องประชุมศูนย์พัฒนาและส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ชั้น ๒ อาคารศูนย์ความปลอดภัยในการทำงาน จังหวัดสมุทรปราการ
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า นายจ้าง ลูกจ้าง ที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว จะได้รับทราบข้อมูลทั้งในทางวิชาการและแนวทางปฏิบัติในการจัดตั้งและดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการให้ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมสวัสดิการที่ดีให้กับลูกจ้างแล้วความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างลูกจ้างในสถานประกอบกิจการอีกทางหนึ่งด้วย