TNP รุกค้าปลีกเชียงรายต่อเนื่อง วางเป้าขยายสาขา 4 แห่ง ดันรายได้ปี 60 โต 10 - 15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 1, 2017 09:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--IR PLUS บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP นำทัพโดย "ธวัชชัย พุฒิพิริยะ" กรรมการผู้จัดการ มั่นใจ ภาพรวมธุรกิจปี 60 เติบโตสดใส ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีโตอีก 10 - 15% จากปีก่อน จากแผนการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 สาขาในปีนี้ รวมทั้งศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่แล้วเสร็จ รองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ด้าน "เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ" แม่ทัพหญิง ตอกย้ำผลงานค้าปลีกท้องถิ่นเชียงรายไม่ทำให้ผิดหวัง จากสาขาเก่าและใหม่เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาจำนวน 15 สาขา ดันผลงานปี 59 โตเข้าเป้า มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 1,448.20 ลบ. กำไรสุทธิ 55.66 ลบ. เพิ่มขึ้น 42.22% บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.03 บ. และตั้งเป้าขยายค้าปลีกของคนไทยให้ครอบคลุม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกของบริษัทฯ ในปี 2560 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา วางเป้าหมายรายได้ทั้งปีเติบโต 10 - 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 1,448.20 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม ตามแนวทางการบริหารเพื่อการเติบโตแบบยั่งยืน จากกำลังซื้อของผู้บริโภคในปีนี้ที่เชื่อว่าจะทยอยฟื้นตัว ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหากไม่มีปัจจัยเชิงลบมากระทบ และแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในจังหวัดเชียงราย ตั้งเป้าปีนี้เปิดเพิ่มอีก 4 สาขา และสาขาแห่งใหม่สาขาแรก ที่อำเภอเชียงแสน จะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนเมษายนนี้ ส่งผลให้สิ้นปีนี้ ธนพิริยะจะมีสาขาทั้งสิ้น 19 สาขา จากเดิม ณ สิ้นปี 2559 มี 15 สาขา รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าบนเนื้อที่กว่า 10,000 ตร.ม. ที่คาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้ภายในเร็ววันนี้ เพื่อรองรับการขยายสาขาในอนาคตและการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น "จากการบริหารงานอย่างมืออาชีพ และความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอย่างดี สนับสนุนให้ธนพิริยะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงตั้งเป้าเพิ่มยอดขายและสร้างแบรนด์ธนพิริยะให้แข็งแกร่งจากการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 สาขาในปีนี้ ซึ่งการเปิดสาขาใหม่จะสามารถเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่เดือนที่ 3 – 4 เป็นต้นไปหลังจากเปิดให้บริการแล้ว เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนยอดขายทั้งปีให้เติบโต 10 - 15% ตามที่วางไว้ได้สำเร็จ ส่วนกำไรคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน จากสัดส่วนค้าปลีกซึ่งมีมาร์จิ้นที่ดีกว่าการค้าส่ง ปรับเพิ่มสูงขึ้น" นายธวัชชัย กล่าว อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ในปีที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงรายมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม และคาดว่าจะยังคงคึกคักต่อเนื่องในปี 2560 เนื่องจากช่วงฤดูหนาวที่ยาวนานมาถึงต้นปี และปลายปีนี้ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นในจังหวัด ประกอบกับการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวโน้มการเติบโตขึ้น ทั้ง เมียนมา สปป.ลาว และจีนตอนใต้ ซึ่งสินค้าไทยยังเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของตลาด รวมทั้ง จังหวัดเชียงรายอยู่ระหว่างการจัดหาสถานที่เพื่อจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจำนวน 3 อำเภอชายแดน คือ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จึงเป็นโอกาสของธนพิริยะ ในฐานะร้านค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทยในจังหวัดเชียงราย ที่จะสามารถขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ศักยภาพ และเพิ่มยอดขายได้อีกมาก ก่อนที่จะศึกษาข้อมูลแผนการขยายสาขาออกสู่นอกพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียง เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ด้านเภสัชกรหญิง อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการบริษัทฯ งวดประจำปี 2559 (สิ้นสุดธันวาคม 2559) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 1,448.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.03 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขยายสาขาของบริษัท โดยรายได้จากสาขาเก่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเกิดจากจำนวนบิลที่ลูกค้ามาซื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้น ในขณะที่ยอดซื้อสินค้าต่อบิลลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 184.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 31.87 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 20.91 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 12.73 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่ารายได้จากการขายส่งของสำนักงานใหญ่ และการได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่าย เนื่องจากบริษัทฯ มีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ในปี 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 55.66 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.52 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42.22 โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 3.84 ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 24 ,000,000 บาท ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้วเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท ยังคงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 มีนาคม 2560 และกำหนดจ่ายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ตอบแทนนักลงทุนที่ไว้วางใจและให้การสนับสนุนธนพิริยะด้วยดีเสมอมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ