กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย
มร.มาร์คัส เบอร์เทนชอว์ กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายตัวแทนนายหน้า บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เช่าที่เริ่มย้ายออกจากอาคารเก่าๆในย่านใจกลางเมืองไปยังอาคารที่ใหม่กว่าใน "พื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ" (Fringe areas) อาคารใหม่ๆที่มีการแข่งขันด้านราคาในพื้นที่ที่เคยถูกเรียกว่า "พื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ" ได้กลายเป็นย่านที่มีความต้องการสูงในขณะนี้ เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้มีความสะดวกในการเดินทางที่เชื่อมต่อด้วยระบบขนส่งมวลชน นอกจากนี้ยังสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆหลากหลายที่อาคารเก่าๆ อาจปรับตัวตามทันได้ยาก
ในช่วงที่มีการกำหนดค่าเช่าที่สูงนี้ นับเป็นเวลาดีสำหรับการปรับปรุงพัฒนาอาคารเกรด B ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
อุปทาน
จากรายงานวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทยแสดงให้เห็นว่า ในช่วงสิ้นปี 2559 มีจำนวนอุปทานตลาดสำนักงานรวมอยู่ที่ 4,783,312 ตร.ม. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 115,804 ตร.ม. สำหรับอาคารสำนักงานที่เปิดตัวไปในปี 2559 ได้แก่ อาคาร FYI ทาวเวอร์ (48,095 ตร.ม.) อาคารจีทาวเวอร์ (เซาธ์ทาวเวอร์; 23,299 ตร.ม.) อาคารรุ่งโรจน์ธนกุล 5 (15,705 ตร.ม.) อาคารเมโทรโพลิส (13,990 ตร.ม.) และอาคารเอ็มทาวเวอร์ (14,715 ตร.ม.) มีเพียงบางอาคารที่เราไม่นับรวมในอุปทานครั้งนี้เนื่องจากเป็นอาคารที่ไม่เปิดให้เช่าแล้วและบางส่วนได้ปิดไปแล้ว ได้แก่ อาคารวานิสสา,อาคารพญาไทและอาคารเคียนหงวน 1 โดยรวมพื้นที่ได้ประมาณ 32,931 ตร.ม.