กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--มทร.ธัญบุรี
เมื่อราว 4 ปีที่แล้ว ทางกองประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ได้เปิดเผยชีวิตของนักศึกษาพิการคนหนึ่ง น้องจ๊ะจ๋า จิณจุฑา จุ่นวาที นักศึกษาสาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ ที่ป่วยเป็นโรคกระดูกเปราะ ต้องนั่งบนวีลแชร์ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ปัจจุบันเธอได้กลายเป็นว่าที่บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2560 เธอจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามความฝันและเป้าหมายที่เธอวางไว้
จ๊ะจ๋า เล่าว่า เคยโดนครูคนหนึ่งพูดว่า "อย่างมากหนูก็ได้แค่ขายล็อตเตอร์รี่ หรือไม่ก็ขอทาน " คำพูดดังกล่าวเป็นแรงผลักดัน ให้ตนเองต้องสู้ ซึ่งคำพูดดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อการดำเนินชีวิตของตนเองเลย ไม่เก็บมาใส่ใจ เมื่อปี 2555 คว้าตำแหน่ง รองอันดับ 2 Miss wheel chair thailand 2012 และปัจจุบันตนเองกำลังจะจบการศึกษาชั้นปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการวิชาตลาด เด็กที่เกิดมาเป็นโรคกระดูกเปราะหักง่าย พิการแต่กำเนิด พ่อแม่ทอดทิ้งไปตั้งแต่แรก นางขนิษฐา เมือบศรี อาชีพหมอนวดแผนไทย แม่บุญธรรมที่ขอตนเองมาเลี้ยงจากพ่อ ซึ่งพ่อเป็นหลานเขยของแม่ โดยแม่ที่ให้กำเนิดเป็นภรรยาน้อยพ่อ ได้ทิ้งไปตั้งแต่คลอดพอรู้ว่าตนเองพิการ สรุปคือแม่ที่เลี้ยงตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลย
ตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันตนเองมีแม่บุญธรรมเลี้ยงมาตลอด อายุได้ 5 ขวบ แม่พาไปสมัครเรียนแต่ไม่มีโรงเรียนไหนรับเข้าเรียน จนกระทั่งโรงเรียนมีนประสาทวิทยาเข้ารับเรียน ป.1 เรียนได้ 1 เดือน เกิดอุบัติเหตุ จึงต้องย้ายมาโรงเรียนทองสัมฤทธิ์ 1 เดือน แต่ด้วยความไกลบ้าน ตอนนั้นอาศัยอยู่บ้านนักกีฬา บางกะปิ กับญาติของแม่ จึงต้องย้ายมาเรียนโรงเรียนสุเหร่าทับช้าง ตอน ป.1 ซึ่งเด็ก ป.1 ต้องย้ายโรงเรียนถึง 3 โรงเรียน ตนเองเรียนอยู่ที่โรงเรียนสุเหล่าทับช้างชั้นถึง ป.3ด้วยความสะดวกในการเรียนของลูก แม่จึงอยากให้ตนเองสะดวกสบายจึงหาโรงเรียนให้ตนเองเรียน จึงได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ของมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จึงถึงชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 โดยแม่ของตนเองต้องย้ายมาเช่าหอพักติดโรงเรียนเพื่อมาดูแลตนเอง
หลังจากเรียนจบชั้น ม.3 จึงเข้าเรียนที่โรงเรียนปากเกร็ด (อยากเรียนรวมกับเพื่อนปกติ) โชคดีที่ได้เพื่อนๆ และคุณครูช่วยดูแล จนจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 และสอบตรงเข้าศึกษาต่อที่ มทร.ธัญบุรี ความฝันอยากเรียนคณะสื่อสารมวลชน เพราะความฝันอยากเป็นนักข่าว ตอนเด็ก ๆ มีโอกาสออกสื่อตอน 5 ขวบ รายการเจาะใจ (ทำให้มีคนเข้ามาช่วยอุปภัมถ์ตนเองคือคุณสุภา ผึ้งสุข เป็นฝ่ายกฎหมายของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งท่านอุปถัมภ์ตนเอง) ได้เห็นคนที่ทำงานเกี่ยวกับสื่อมวลชน ได้เห็นเครื่องมืออุปกรณ์จึงอยากทำงานสายงานนี้ และที่สำคัญอยากเป็น "นักข่าว" มาก แต่ด้วยร่างกายที่ไม่อำนวยต่อการเรียนสาขาวิชานี้ ดังนั้น ตนเองจึงศึกษาสาขาที่เกี่ยวกับสาขาที่มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่ตนเองชอบ "สาขาการตลาด" ส่วนตัวชอบการพูดการแสดงออก ชอบพูดคุยกับผู้คน และมองในเรื่องของการประกอบอาชีพในอนาคต มีช่องทางในการประกอบอาชีพหลากหลายอาชีพ อย่างน้อยถ้ามีความรู้ทางด้านการตลาด ช่องทางในการทำงานน่าจะเยอะขึ้น
ตนเองป่วยเป็นโรคกระดูกเปราะ ต้องระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษ เนื่องจากกระดูกของเธอจะหักง่าย และกระดูกจะคดจะง้อได้ง่าย จากโรคดังกล่าวทำให้ตนเองต้องผ่าตัดปีละครั้ง "ผ่าจนชิน" ปัจจุบันผ่าตัดเป็นครั้งที่ 24 ความโชคร้ายที่ตนเองเกิดมาแบบนี้ แต่ความโชคดีของตนเอง คือความรักของแม่ ความรักที่ไม่ใช่ความรักหนุ่มสาว ความรักที่ไม่ใช่สายเลือด ความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน หรือแค่อาจจะมีใครสักคนเป็นเสียงหัวเราะและความสุขของใครอีกคน แค่นั้นก็อาจจะพอแล้ว "ตนเองกับแม่ลำบากกันมากแค่ไหน อดมื้อกินมื้อกันมานานเท่าไหร่ มีแค่เราสองคนที่รู้และเข้าใจความรู้สึกนั้น" กว่า 22 ปี ที่ยึดอาชีพหมอนวดแผนโบราณเลี้ยงตนเองมา ภาพตอนเด็กเวลาแม่ไปนวดที่ไหน ตนเองจะไปด้วย และจะมีสมุดวาดรูปให้เล่มหนึ่งเพื่อไม่ให้รบกวนแม่ตอนทำงาน ปัจจุบันแม่เลิกอาชีพหมอนวดแผนโบราณแล้ว ตนเองและแม่เปิดร้านขายของกิ๊ฟช็อป (กระเป๋าเอกสารกระเป๋าใส่ของ) ที่ตลาดนัด Rmutt walking street ทุกวันอังคาร – วันพฤหัสบดี เวลาตั้งแต่ 16.00 – 22.00 น. และสามารถสั่งได้ทางทวิตเตอร์ @Thejajahshop "ปัจจุบันเกรดเฉลี่ยสะสม 2.5 วันนี้ตนเองกำลังจะจบปริญญาตรี แม่พาหนูมาไกลมากๆ จากนี้มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ไม่ว่าจากนี้จะเป็นอย่างไร จะเจ็บ จะป่วย จะเหนื่อย หนูพร้อมแล้ว แค่มีแม่และทุกคนข้างหนูก็พอ"
โดยเดือนพฤศจิกายนนี้ ตนเองเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จากพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความภูมิใจให้กับครอบครัวของแม่ เพราะว่าตนเองเป็นหลานคนแรกที่เรียนจบ เรียนจบปริญญาบัตรใบแรกของครอบครัว และจะทำงานเลี้ยงแม่ ดูแลแม่ จับมือเดินเคียงข้างกันตลอดไป "ไม่ต้องท้อ ไม่ต้องเอาตนเองไปเปรียบกับใคร ทำทุกอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ เมื่อมีอุปสรรคระหว่างเดิน นั่งพัก หายเหนื่อยแล้วเดินต่อ" จ๊จ๋า กล่าวทิ้งท้าย