กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--ทาทา มอเตอร์ส
ทาทา มอเตอร์ส เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า จัดจำหน่าย ทาทา ซีนอน ซิงเกิ้ล แค็บ 150 เอ็นเอ็กซ์เพิร์ธ แค็บ แชสซีส์ เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มความคุ้มค่าในการนำรถทาทาไปประกอบธุรกิจ ให้ลูกค้านำไปติดตั้งท้ายกระบะตามลักษณะการใช้งาน ประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน
บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยการนำเสนอรถกระบะตอนเดียว ทาทา ซีนอน ซิงเกิ้ล แค็บ 150 เอ็นเอ็กซ์เพิร์ธ แค็บ แชสซีส์ ขับเคลื่อน 2 ล้อ (TATA Xenon Single Cab 150NX-PERT 4x2 Cab Chassis) พร้อมระบบเพลาท้ายแบบ HD เฮฟวี่ ดิวตี้ เสริมความมั่นใจให้ทุกงานบรรทุกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยวางราคาในการจำหน่ายรถรุ่นนี้ไว้ที่เพียง 484,900 บาท
ทางด้าน นายซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการบริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงแนวคิดในการจำหน่ายรถกระบะแชสซีส์เปล่า ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าในครั้งนี้ว่า "เรานำเสนอ ทาทา ซีนอน ซิงเกิ้ล แค็บ 150 เอ็นเอ็กซ์เพิร์ธ แค็บ แชสซีส์ ให้กับตลาด เนื่องจากเราเล็งเห็นว่า การใช้กระบะในเชิงพาณิชย์ของลูกค้าในประเทศไทยมีหลากหลายรูปแบบมาก ซึ่งการจำหน่ายรถแชสซีส์เปล่า จะช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนทางธุรกิจไปได้มาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของต้นทุนในการซื้อรถกระบะทาทา ไม่มีค่าใช้จ่ายและสูญ่เสียเวลากับการถอดกระบะเดิมออก เพื่อที่จะเปลี่ยนรูปแบบของกระบะบรรทุกให้เหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจ โดยสามารถนำรถแชสซีส์เปล่าแบบนี้ไปติดตั้งได้เอง ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าของเราทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดย่อมหรือธุรกิจขนส่งขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน รถรุ่นนี้ยังใช้เพลาท้ายแบบเฮฟวี่ดิวตี้ เพื่อรองรับการบรรทุกได้อย่างเต็มที่ สร้างทางเลือกให้ลูกค้าของเราสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอย่างแท้จริง"
เฟรมแชสซีส์ ของ ทาทา ซีนอน ซิงเกิ้ล แค็บ 150 เอ็นเอ็กซ์เพิร์ธ แค็บ แชสซีส์ ทำด้วยเหล็กกล้าคุณภาพสูง มีความแข็งแกร่งอันเป็นจุดเด่นของรถกระบะทาทาทุกรุ่นพร้อมเพลาท้ายแบบเฮฟวี่ดิวตี้ ที่สามารถรองรับการบรรทุกได้เต็มประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย โครงสร้างตัวถังแบบ Impact Zone ใช้เหล็กหนาพิเศษ และคานนิรภัยกันกระแทกด้านข้าง กุญแจรีโมทแบบ Integrated Key และระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer
TATA XENON Single Cab 150NX-PERT 4X2 Cab Chassis ใช้เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.2 ลิตร (Dicor Euro4) จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่น พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ต่อเนื่อง ที่ 1,500-3,000 รอบ/นาที ใช้ระบบส่งกำลังแบบ 5 สปีด โอเวอร์ไดร์ฟ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้น ทอร์ชั่นบาร์ เหล็กกันโคลง และช็อคอัพ ส่วนด้านหลังเป็น แหนบแผ่นซ้อนแบบโค้งคว่ำ (Parabolic) พร้อมช็อคอัพ พวงมาลัยแบบลูกปืน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง