กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--องค์การเภสัชกรรม
นพ.กฤษฎา มนูวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เผยว่า การไอเป็นกลไกป้องกันตัวอย่างหนึ่งของร่าง กาย เพื่อให้ทางเดินหายใจปราศจากฝุ่นละอองเสมหะ หรือสิ่งแปลกปลอมก่อให้เกิดการระคายเคือง และเป็นการ บ่งบอกถึงอวัยวะอื่นๆ เช่น การอักเสบติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ วัณโรคปอด เป็นต้น และสำหรับการเลือก ใช้ยาแก้ไอให้ถูกชนิดและเหมาะสม เพราะยาแก้ไขแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มแรกคือ ยาระงับอาการไอ ใช้ บรรเทาอาการไอ ระคายคอ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการแพ้หรือการอักเสบของทางเดินหายใจ มี 2 ประเภท ยาระงับ การไอที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และ 2 ยาระงับอาการไอที่ไม่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางออกฤทธิ์ ระงับอาการไอโดยวิธีต่างๆ กลุ่มที่ 2 เป็นยาขับเสมหะ เหมาะสำหรับอาการไอแบบมีเสมหะ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการ หลั่งสารหล่อลื่นในทางเดินหายใจ กลุ่มที่ 3 เป็นยาละลายเสมหะ เหมาะสำหรับอาการไอแบบมีเสมหะเหนี่ยวจากหลอด อักเสบ หลอดลมพอง ยากลุ่มนี้จะลดความเหนี่ยวของเสมหะ ยาทั้ง 3 กลุ่มนี้ ไม่ใช่การรักษาอาการไอโดยตรง เป็น เพียงช่วยระงับหรือบรรเทาอาการไอเท่านั้น--จบ--
-สส-