มอลล์-ตั้งฮั่วเส็ง-โรบินสัน ฟันธง ปีหน้าค้าปลีกไทยยอดขายพ้นน้ำ

ข่าวทั่วไป Wednesday December 27, 2000 14:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--ทูเดย์อินไทยแลนด์
นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมโมเดิร์นเทรดในปีหน้าจะเติบโตขึ้นประมาณ 10% จากปัจจุบันที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจในปีหน้าน่าจะดีขึ้น โดยเซ็กเมนต์ที่มีแนวโน้มดีที่สุดคือศูนย์การค้าระดับบน สำหรับแนวทางดำเนินงานในปีหน้าได้เตรียมงบฯลงทุนไว้ 300-400 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้ไม่รวมถึงดิ เอ็มโพเรียมไว้ 22,000 ล้านบาท
งบฯดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ 1.คัดเลือกสินค้าแบรนด์เนมที่มีระดับเข้ามาให้มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อผู้บริโภค เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กีฬา เครื่องสำอาง 2.ปรับรูปแบบการทำตลาดให้มีสีสันมากขึ้น 3.ปรับหน้าตาให้ทันสมัยมากขึ้น อาทิ แผนกฟู้ดเซ็นเตอร์ โดยใช้สาขาโคราชเป็นต้นแบบ คาดจะแล้วเสร็จทุกแห่งในต้นปีหน้า
ทั้งนี้ นายไพบูลย์มองถึงการขยายธุรกิจในอนาคตไว้ 2 แนวทาง คือ ศูนย์การค้าระดับบนอย่างดิ เอ็มโพเรียม ซึ่งมีแนวโน้มดีแต่ขยายได้ 3-4 แห่งเท่านั้น และเดอะมอลล์ซึ่งน่าจะขยายได้ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณ 15 แห่ง สำหรับเดอะมอลล์จะเห็นโครงการใหม่ๆ ใน 3-5 ปีนับจากนี้ ขณะที่นายเดนิส คนู๊ปส์ กรรมการบริหาร บริษัท เดลเลซ์ เดอะ ไลอ้อน แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่าหลังจากใช้เวลาศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา ในปีหน้าฟู้ดไลอ้อนจะขยายตัวอย่างจริงจัง โดยจะเปิดสาขาเพิ่มอีกถึง 11 แห่ง เน้นกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากปัจจุบันมีสาขาแล้ว 20 แห่ง โดยสาขาล่าสุดคือ เอกมัย ซึ่งจะเป็นสาขาแรกที่ทดลองเปิด 24 ชั่วโมง หากประสบผลสำเร็จก็จะขยายไปยังสาขาอื่นๆ ทั้งหมดด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขยายสาขาชนิดก้าวกระโดด แต่ที่ผ่านมาฟู้ดไลอ้อนได้ปิดสาขาไปแล้ว 2 แห่ง คือ พาหุรัด และแจ้งวัฒนะ เนื่องจากการแข่งขันที่สูงมาก
ด้านนายประวิช จรรยาสิทธิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการขาย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางของศูนย์การค้าในปีหน้าจะอยู่ในสภาพหดตัว-ทรงตัวเท่านั้น สังเกตได้จากการจับจ่ายของลูกค้าในช่วงปีใหม่ ลูกค้าใช้เวลาตัดสินใจซื้อนานขึ้น ดังนั้น ทิศทางของเซ็นทรัลพัฒนาในปีหน้าจะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ลอยัลตี้กับลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจัดโปรโมชั่น ประชาสัมพันธ์
ด้านนายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในปีหน้าไว้ 5% จากที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของตั้งฮั่วเส็งน่าเป็นห่วงมาก มียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ถึง 3% ตามที่ตั้งเป้าไว้ อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าตลาดรวมปีหน้าต้องดีขึ้นกว่าปีนี้ เพราะผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น รวมทั้งภาพรวมของตลาดค้าปลีกยอดขายน่าจะโตขึ้นตามลำดับ
ตามแผนที่ตั้งไว้นายวิโรจน์กล่าวว่า จะเน้นเพิ่มความแปลกใหม่มากขึ้น อาทิ โบว์ลิ่ง เพิ่มอาหารสดในแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งเน้นกิจกรรมการตลาดให้มากขึ้นด้วย
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้บริหาร และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล รีเทลคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า เซ็นทรัลเตรียมจะเปิดบริการช็อปปิ้งผ่านอินเทอร์เน็ต (อี-คอมเมิร์ซ) ในปลายไตรมาสแรกของปีหน้า โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้าน และตั้งเป้าหมายว่าใน 5 ปีนับจากนี้ยอดขายในช่องทางนี้จะทำรายได้ให้เซ็นทรัลเพิ่มขึ้นราว 5%
ขณะที่ประเด็นร้อนการรุกคืบของค้าปลีกข้ามชาติ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัญหาเรื้อรังไปถึงปีหน้าด้วยนั้น นายไพบูลย์ให้ความเห็นว่า การปูพรมเปิดสาขาของต่างชาติจะเป็นผลดีในช่วงแรกเท่านั้น เพราะการแข่งขันกันด้านราคามากๆ จะทำให้คุณภาพต่ำลง นอกจากนี้ผลกระทบยังเกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ไปถึงร้านค้าย่อยที่ต้องปิดตัวลง และซัพพลายเออร์ที่มีช่องทางกระจายสินค้าน้อยลง
ทั้งนี้ จากการเสวนาในหัวข้อเรื่อง "ค้าปลีกรายใหญ่และรายย่อยจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร" โดยสมาคมพ่อค้าไทยฯ ร่วมกับสถาบันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจ (ISEP) ครั้งล่าสุดได้สรุปแนวทางการควบคุมธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ไว้ 13 ประเด็น ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ปกป้องธุรกิจรายย่อยเสียเป็นส่วนใหญ่ อาทิ พื้นที่ตั้ง การลงทุน วันเวลาเปิดบริการ การควบคุมการนำกำไรออกนอกประเทศ การขออนุญาตขยายสาขาใหม่ ฯลฯ
นายทศ จิราธิวัฒน์ กล่าวว่า รัฐไม่ควรออกมาตรการจำกัดการขยายตัวของค้าปลีกขนาดใหญ่ เพราะจะทำให้ซัพพลายเออร์รายเล็กๆ ไม่มีโอกาสเกิด และอาจต้องตายลงเมื่อเปิดเขตการค้าเสรี--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ