กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--IR PLUS
PYLON บอร์ดไฟเขียวปันผลงวดครึ่งปีหลังให้ผู้ถือหุ้น 0.20 บาทต่อหุ้น "ชเนศวร์ แสงอารยะกุล" บอสใหญ่ ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานรากปี 2560 คึกคักทั้งงานภาครัฐและเอกชน เตรียมงบลงทุนเพียบ ไม่ว่าจะเป็นงานสนามบินสุวรรณภูมิส่วนต่อขยาย รวมถึงงานรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง-ส้ม
ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.20 บาท ในงวดครึ่งปีหลัง เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 21 มีนาคม 2560 จ่ายปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 โดยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาทไปแล้ว รวมจ่ายปันผลทั้งปีในอัตราหุ้นละ 0.45 บาท
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯและบริษัทย่อยในงวดปี 2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อยและมีกำไรสำหรับปีส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท 172.22 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 29.70 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 14.71 โดยมีรายได้จากงานก่อสร้าง 1,062.71 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 158.60ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 12.99 จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,221.31 ล้านบาท
"ผลประกอบการที่ออกมา เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและการลงทุนของภาครัฐในปี 2559ซึ่งมีออกมาน้อย แต่คาดว่าตลาดการก่อสร้างโดยรวม และโครงการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชนจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2560 เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงระมัดระวังกับตลาดที่อยู่อาศัย จากการที่สถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนใหญ่กำลังอยู่ในช่วงของการเจรจาต่อรอง และเซ็นสัญญา คาดว่าตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป PYLON น่าจะได้อานิสงส์บวกจากโครงการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะเริ่มทยอยเข้ามา" ดร.ชเนศวร์ กล่าว
ดร.ชเนศวร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2560 เป็นปีที่ PYLON มีโอกาสในการเข้าประมูลงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายหลัก 3 สาย ได้แก่ สายสีชมพู เหลือง และส้ม ที่ได้ผู้ชนะการประมูลราคาแล้ว และคาดเริ่มงานฐานรากได้ในช่วงไตรมาส 3/60 และเชื่อว่า PYLON ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำ
ด้านงานรับเหมาเจาะเสาเข็มจะได้อานิสงส์ไปด้วย รวมถึงโครงการก่อสร้างของรัฐบาลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2561 เพราะยังมีโครงการรถไฟฟ้าอีกหลายสายที่จ่อคิวรอประมูลในปี 2560 นี้ รวมถึงโครงการส่วนต่อขยายสนามบินสุวรรณภูมิและรถไฟรางคู่
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมฐานราก มองว่ายังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสาย ต่างๆ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงมีความมั่นใจว่าภาครัฐจะพยายามผลักดัน โครงการต่างๆให้ เกิดขึ้นอย่าง เป็นรูปธรรมได้แน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมในปี 60 ฟื้นตัวได้ และจะมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปี